นายกฯ มอบนโยบายแผนการปฏิบัติงานปี68 ของ กอ.รมน.

ทำเนียบ 23 ธ.ค.- นายกฯ มอบนโยบายแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของ กอ.รมน. เน้นทำงานร่วมรัฐบาลดูแลความมั่นคง ปราบยาเสพติด แก้ปัญหาน้ำท่วม ฝุ่น pm 2.5 ปราบอาชญากรรมออนไลน์ แก้หนี้นอกระบบ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ที่ได้ทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงในทุกรูปแบบ ทั้งปัจจัยความท้าทายจากภายนอกประเทศและภายในประเทศ รวมทั้งความท้าทายความมั่นคงในรูปแบบใหม่ ๆ กอ.รมน. จึงเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประเทศและพร้อมที่จะสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจสังคมให้กับประชาชนทุกคนต่อไป สำหรับการแถลงผลงานของ กอ.รมน. ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสให้ตนเองได้พบกับเจ้าหน้าที่ และได้รับทราบถึงผลงานที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกับรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคตนโยบายซึ่งมีหลายนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย

นอกจากนี้ยังมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ต้องใช้ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือดูแลประชาชน รวมถึงสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีดินโคลนถล่ม ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง กอ.รมน.ก็สนับสนุนงานด้านนี้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยลง ตนเองในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือ ผอ.รมน. ขอมอบนโยบายและภารกิจสำคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2568 ได้แก่ ด้านความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ปัญหาอุทกภัย ฝุ่น PM 2.5 ที่จะต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงขอให้ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดร่วมเป็นด่านหน้าและเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือประชาชนป้องกันเฝ้าระวังการตัดไม้ การเผาป่า และให้เป็นหน่วยร่วมในการเฝ้าระวัง ลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมของเสียที่เป็นอันตรายอย่างจริงจัง โดยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น แล้วรัฐบาลจะมีมาตรการสนับสนุนอย่างเข้มข้นเช่นกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านความมั่นคงทางสังคม จะต้องดูแลชีวิตประจำวันของประชาชน มอบหมาย กอ.รมน. ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ 1.ยาเสพติด ขอให้ กอ.รมน. ร่วมมือกับ ปปส. ฝ่ายปกครอง ในการดำเนินงานตัดต้นตอยาเสพติดด้วยการสกัดกั้นและตัดต้นทางการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในประเทศ ปราบปรามยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด และค้นหาผู้เสพในชุมชนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ซึ่งจากการที่ตนเองลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เห็นบางจังหวัดมีทหารเข้าไปช่วย บำบัดยาเสพติด ทำให้ตนเองทราบผู้บำบัดยาเสพติดมีความภูมิใจ ที่ทหารนำข้อปฏิบัติระเบียบได้เห็นคาเร็กเตอร์ทหาร ซึ่งเป็นคาเร็กเตอร์แห่งความมั่นคงและมั่นใจในตัวของทหารเอง ทำให้ผู้ได้รับการบำบัดเกิดความภูมิใจ ดูเท่ห์อละมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งตนเองได้เห็นว่าหากช่วยกันแบบนี้และสร้างพลังในด้านความมั่นใจก็จะให้ความมั่นใจในการบำบัด เข้ากับสังคมได้จึงขอให้ กอ.รมน. ช่วยจัดฝึกอาชีพให้กับผู้บำบัดยาเสพติด เพื่อไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดอีก

ส่วนเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติรับมือกับแก๊งออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีเทคนิคที่จะหลอกประชาชนขอให้กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเป็นหน่วยปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชนมาก คือ หนี้นอกระบบ ขอให้กอ.รมน.ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง และร่วมลงพื้นที่ในการแก้ไขปัญหากับประชาชนที่ประสบปัญหานี้ รัฐบาลมีเรื่องนโยบายอยู่แล้วที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งพึ่งประกาศนโยบายออกไป รวมถึงการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีบทบาทสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะงานข่าวกรอง งานมวลชนที่เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ไปรณรงค์ปลูกฝังในชุมชนขอให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สร้างเอกภาพในการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยขอมอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร ปัญหาด้านความมั่นคงในปัจจุบันอย่างที่ทราบกัน มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางด้านเทคโนโลยี ขอให้กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร โดยระบบการทำงานต้องทันสมัย ด้านเทคโนโลยีต้องเน้นย้ำให้ปรับตัวทันกับโลกและเปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการที่ทันสมัย เป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น ตรวจสอบได้ และโครงสร้างของกอ.รมน .กำลังพลจะต้องกระทัดรัดคล่องตัว สามารถปรับตัวได้ง่าย สายการบังคับบัญชาต้องสั้นลง การทำงานต้องมีเป้าหมาย นอกจากมีเป้าหมายแล้วก็ต้องมีตัวชี้วัดผลที่ชัดเจนให้มากขึ้น บุคลากรที่มีความสามารถต้องได้รับความเจริญก้าวหน้า สนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งหมดที่กล่าวมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ว่าฯที่ทำหน้าที่เป็น CEO ในบทบาทของผอ.รมน.จังหวัดโดยมีรองผอ.รมน.จังหวัดเป็นผู้ช่วยขอให้ผอ.รมน.จังหวัดบูรณาการกำลังเข้ากับส่วนงานหลักที่รับผิดชอบในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงาน และการปฏิบัติของกอ.รมน.จังหวัดที่มีผลงานให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนท้ายว่า โอกาสนี้ขออนุญาตอวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นอย่างที่รัฐบาลพูดไว้ คือเป็นปีแห่งโอกาส ขอให้ทุกท่านในองค์กรให้โอกาสซึ่งกันและกัน พร้อมสนับสนุนซึ่งกันดูแล เพราะประเทศ จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยความสามัคคีของทุกฝ่าย เพื่อที่จะให้ประชาชนมีความสุขประเทศชาติมีความสุข เราก็จะทำหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกท่านมีแรงกายแรงใจ ช่วยกันดูแลปกป้องประเทศของเราและพี่น้องประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ช่วยกันอย่างเต็มที่ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่สดใสทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง หวังว่าจะได้ร่วมกันทำงาน อย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้น และทำงานแบบบูรณาการมากยิ่งขึ้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงผลงานประจำปีของ กอ.รมน.นายกรัฐมนตรีได้เดินชมบูธกิจกรรมที่นำมาจัดแสดง และ ระหว่างที่เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้บัญชาการทหารบกได้เดินมาส่ง โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกฯว่าอยู่ท่ามกลางความมั่นคงอบอุ่นหรือไม่และคุ้นกับทหารหรือยัง นายกรัฐมนตรี หันมาตอบว่า คุ้นแล้ว ตั้งแต่เรียนมินิ วปอ.คุ้นมานาน.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย