นายกฯ มอบนโยบายแผนการปฏิบัติงานปี68 ของ กอ.รมน.

ทำเนียบ 23 ธ.ค.- นายกฯ มอบนโยบายแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของ กอ.รมน. เน้นทำงานร่วมรัฐบาลดูแลความมั่นคง ปราบยาเสพติด แก้ปัญหาน้ำท่วม ฝุ่น pm 2.5 ปราบอาชญากรรมออนไลน์ แก้หนี้นอกระบบ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ที่ได้ทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงในทุกรูปแบบ ทั้งปัจจัยความท้าทายจากภายนอกประเทศและภายในประเทศ รวมทั้งความท้าทายความมั่นคงในรูปแบบใหม่ ๆ กอ.รมน. จึงเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประเทศและพร้อมที่จะสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจสังคมให้กับประชาชนทุกคนต่อไป สำหรับการแถลงผลงานของ กอ.รมน. ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสให้ตนเองได้พบกับเจ้าหน้าที่ และได้รับทราบถึงผลงานที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกับรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคตนโยบายซึ่งมีหลายนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย

นอกจากนี้ยังมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ต้องใช้ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือดูแลประชาชน รวมถึงสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีดินโคลนถล่ม ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง กอ.รมน.ก็สนับสนุนงานด้านนี้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยลง ตนเองในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือ ผอ.รมน. ขอมอบนโยบายและภารกิจสำคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2568 ได้แก่ ด้านความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ ปัญหาอุทกภัย ฝุ่น PM 2.5 ที่จะต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงขอให้ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดร่วมเป็นด่านหน้าและเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือประชาชนป้องกันเฝ้าระวังการตัดไม้ การเผาป่า และให้เป็นหน่วยร่วมในการเฝ้าระวัง ลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมของเสียที่เป็นอันตรายอย่างจริงจัง โดยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น แล้วรัฐบาลจะมีมาตรการสนับสนุนอย่างเข้มข้นเช่นกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านความมั่นคงทางสังคม จะต้องดูแลชีวิตประจำวันของประชาชน มอบหมาย กอ.รมน. ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ 1.ยาเสพติด ขอให้ กอ.รมน. ร่วมมือกับ ปปส. ฝ่ายปกครอง ในการดำเนินงานตัดต้นตอยาเสพติดด้วยการสกัดกั้นและตัดต้นทางการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในประเทศ ปราบปรามยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด และค้นหาผู้เสพในชุมชนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ซึ่งจากการที่ตนเองลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เห็นบางจังหวัดมีทหารเข้าไปช่วย บำบัดยาเสพติด ทำให้ตนเองทราบผู้บำบัดยาเสพติดมีความภูมิใจ ที่ทหารนำข้อปฏิบัติระเบียบได้เห็นคาเร็กเตอร์ทหาร ซึ่งเป็นคาเร็กเตอร์แห่งความมั่นคงและมั่นใจในตัวของทหารเอง ทำให้ผู้ได้รับการบำบัดเกิดความภูมิใจ ดูเท่ห์อละมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งตนเองได้เห็นว่าหากช่วยกันแบบนี้และสร้างพลังในด้านความมั่นใจก็จะให้ความมั่นใจในการบำบัด เข้ากับสังคมได้จึงขอให้ กอ.รมน. ช่วยจัดฝึกอาชีพให้กับผู้บำบัดยาเสพติด เพื่อไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดอีก

ส่วนเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติรับมือกับแก๊งออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีเทคนิคที่จะหลอกประชาชนขอให้กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเป็นหน่วยปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชนมาก คือ หนี้นอกระบบ ขอให้กอ.รมน.ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง และร่วมลงพื้นที่ในการแก้ไขปัญหากับประชาชนที่ประสบปัญหานี้ รัฐบาลมีเรื่องนโยบายอยู่แล้วที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งพึ่งประกาศนโยบายออกไป รวมถึงการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีบทบาทสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะงานข่าวกรอง งานมวลชนที่เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ไปรณรงค์ปลูกฝังในชุมชนขอให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สร้างเอกภาพในการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยขอมอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร ปัญหาด้านความมั่นคงในปัจจุบันอย่างที่ทราบกัน มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางด้านเทคโนโลยี ขอให้กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร โดยระบบการทำงานต้องทันสมัย ด้านเทคโนโลยีต้องเน้นย้ำให้ปรับตัวทันกับโลกและเปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการที่ทันสมัย เป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น ตรวจสอบได้ และโครงสร้างของกอ.รมน .กำลังพลจะต้องกระทัดรัดคล่องตัว สามารถปรับตัวได้ง่าย สายการบังคับบัญชาต้องสั้นลง การทำงานต้องมีเป้าหมาย นอกจากมีเป้าหมายแล้วก็ต้องมีตัวชี้วัดผลที่ชัดเจนให้มากขึ้น บุคลากรที่มีความสามารถต้องได้รับความเจริญก้าวหน้า สนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งหมดที่กล่าวมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ว่าฯที่ทำหน้าที่เป็น CEO ในบทบาทของผอ.รมน.จังหวัดโดยมีรองผอ.รมน.จังหวัดเป็นผู้ช่วยขอให้ผอ.รมน.จังหวัดบูรณาการกำลังเข้ากับส่วนงานหลักที่รับผิดชอบในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงาน และการปฏิบัติของกอ.รมน.จังหวัดที่มีผลงานให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนท้ายว่า โอกาสนี้ขออนุญาตอวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นอย่างที่รัฐบาลพูดไว้ คือเป็นปีแห่งโอกาส ขอให้ทุกท่านในองค์กรให้โอกาสซึ่งกันและกัน พร้อมสนับสนุนซึ่งกันดูแล เพราะประเทศ จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยความสามัคคีของทุกฝ่าย เพื่อที่จะให้ประชาชนมีความสุขประเทศชาติมีความสุข เราก็จะทำหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกท่านมีแรงกายแรงใจ ช่วยกันดูแลปกป้องประเทศของเราและพี่น้องประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ช่วยกันอย่างเต็มที่ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่สดใสทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง หวังว่าจะได้ร่วมกันทำงาน อย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้น และทำงานแบบบูรณาการมากยิ่งขึ้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงผลงานประจำปีของ กอ.รมน.นายกรัฐมนตรีได้เดินชมบูธกิจกรรมที่นำมาจัดแสดง และ ระหว่างที่เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้บัญชาการทหารบกได้เดินมาส่ง โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกฯว่าอยู่ท่ามกลางความมั่นคงอบอุ่นหรือไม่และคุ้นกับทหารหรือยัง นายกรัฐมนตรี หันมาตอบว่า คุ้นแล้ว ตั้งแต่เรียนมินิ วปอ.คุ้นมานาน.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]