สภาผู้บริโภคจี้ กกพ.ยกเลิกประกาศรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม ชี้เอื้อนายทุนกลุ่มเดิม

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – สภาผู้บริโภคจี้ กกพ. ยกเลิกประกาศรับซื้อพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม เหตุขัดวัตถุประสงค์ของกฎหมายกำกับกิจพลังงาน ไม่ใช้วิธีการแข่งขัน เลือกปฏิบัติออกประกาศเอื้อเอกชนกลุ่มเดิม


จากกรณีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ออก “ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567” ซึ่งเป็นการออกประกาศเพื่อให้สิทธิ์กับกลุ่มผู้ประกอบการรายชื่อเดิม จำนวน 198 ราย แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกในรอบแรกตามประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 โดยมีปริมาณรับซื้อไฟฟ้ารวม 2,180 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) 1,580 เมกะวัตต์

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคได้ยื่นหนังสือขออุทธรณ์ประกาศฉบับดังกล่าว ต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เนื่องจากการออกประกาศเพิ่มเติมปี 2567 ยังอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ไม่ใช้วิธีการแข่งขันทางด้านราคาซึ่งถูกกำหนดมาตั้งแต่ปี 2565 การให้สิทธิ์ขายไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการทั้ง 198 รายนั้น ไม่ใช้วิธีการแข่งขันทางด้านราคา แต่ราคาซื้อไฟฟ้าถูกกำหนดและห้ามไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตั้งแต่ปี 2565 ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ประเด็นสำคัญคือ ไม่เคยมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม กพช. ที่มีนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นประธาน เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่นางสาวแพรทองธารแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ขณะที่ประกาศฉบับดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567


การออกประกาศเพิ่มเติมปี 2567 ของ กกพ. เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาฯ ว่า “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิติธรรมและความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งยังขัดต่อ พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงานและป้องกันการใช้อำนาจในทางมิชอบ การไม่เปิดให้มีการแข่งขัน การล็อกราคา ล็อกบริษัทที่เข้าร่วมเสนอโครงการ การใช้หลักเกณฑ์คัดเลือกที่ขาดความโปร่งใส” จึงทำให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าไม่สามารถที่จะได้ราคาค่าไฟฟ้าที่ต่ำลงได้อีกจากประกาศฉบับนี้

“หาก กกพ.จะเดินหน้าดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าตามประกาศฉบับนี้ต่อไป ก็อาจถือได้ว่า กกพ. มีเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใช้พลังงาน และขอเสนอแนะว่า การดำเนินการเพื่อการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส ภายใต้หลักการการส่งเสริมการแข่งขัน รัฐบาลควรดำเนินการภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ปี 2561-2580 (PDP 2024) ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ เพื่อให้เกิดความชอบธรรม เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาจะเป็นการดีที่สุด” น.ส.รสนา กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”