เปิดมาตรการเข้มจังหวัดรอดโควิด-19

ภูมิภาค 1 เม.ย. – เปิดมาตรการคุมเข้ม จ.ลำปาง อ่างทอง และสมุทรสงคราม ควบคุมป้องกันโรคอย่างไร ถึงยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19


จ.สมุทรสงคราม เป็น 1 ใน 14 จังหวัด ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตอนนี้กักตัวเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 16 ราย ชาวบ้านในพื้นที่อีก 24 ราย รวมเป็น 40 ราย ในจำนวนนี้ครบกำหนดแล้ว 19 ราย ส่วน 21 รายที่เหลือยังไม่พบมีอาการไข้ 


ทางจังหวัดมีมาตรการตั้งจุดตรวจคัดกรอง 3 จุดสำคัญ ได้แก่ ใต้สะพานต่างระดับทางเข้าเมืองสมุทรสงคราม สถานีรถไฟสายแม่กลอง และสถานีขนส่งจังหวัดสมุทรสงคราม ประชาสัมพันธ์ป้องกันการติดเชื้อบนถนนสายหลักเข้าเขตจังหวัดสมุทรสงครามทั้ง 4 มุมเมือง ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดต้องเข้าแจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบ เข้าสู่ขั้นตอนเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปกลับทุกวันทั้ง 904 คน จัดเหลื่อมเวลาการทำงานเพื่อลดความแออัด 


ล่าสุดทางจังหวัดยังออกคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด 36 ข้อ ได้แก่ ปิดห้างสรรพสินค้า ยกเว้นส่วนที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา ขายอาหาร และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต บริการธนาคารและตู้เอทีเอ็ม ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ 

ปิดตลาด ยกเว้นส่วนที่จำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

ปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านเครื่องดื่มทุกแห่ง ให้เปิดได้เฉพาะการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้ซื้อกลับไปบริโภค ยกเว้นที่เปิดในโรงพยาบาล หรือในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยเท่านั้น 

ปิดสถานที่จำหน่ายสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด หรือสถานที่อื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ระหว่างเวลา 21.00-03.00 น. ของวันถัดไป ยกเว้นที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาล และสั่งปิดสถานที่ที่จำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 

นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ย้ำยังไม่มีแนวคิดปิดจังหวัด เพราะจะทำให้ประชาชนลำบากเร็วกว่าสถานการณ์ที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อหยุดเชื้อ และปฏิบัติตามตามมาตรการอย่างเคร่งครัด 

ลำปางเข้ม สั่งห้ามข้าราชการ-จนท.ออกนอกพื้นที่

สถานการณ์ที่ จ.ลำปาง ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ พบเพียงผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 38 คน มีผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เขตติดโรคอันตรายพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง และผู้สัมผัสสะสมรวม 6,374 ราย กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน จำนวน 5,433 ราย และมีผู้พ้นระยะกักตัวแล้ว 941 ราย 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีการวางแผนยกระดับสถานการณ์แบ่งเป็นระดับ 1, 2, 3, 4 หรือเป็นสี คือ สีเขียว สีเหลือง สีส้ม สีแดง หากพบคนติดเชื้อในพื้นที่ หรือผู้ที่เป็นโรคเข้ามา จะยกระดับขึ้นมาเป็นสีเหลือง และออกประกาศไม่ให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่ หากเกิดกรณีฉุกเฉินจะมีเจ้าหน้าที่ทำงาน ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยวันเดียว 6 ราย และหากมีผู้ป่วยถึง 5 เคส ก็จะต้องยกระดับเป็นสีส้ม และหากมีผู้ป่วยเสียชีวิตก็ต้องยกระดับเป็นสีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ แบ่งงานเป็นทีม A ทีม B หากผู้ว่าฯ ติด รองผู้ว่าฯ ก็จะได้ทำงานต่อได้   

อีกทั้งยังมีการยกระดับและเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเข้มข้ม โดยมีประชุมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ ตั้งจุดคัดกรองหลักทางเข้า-ออกเมืองลำปางทั้ง 4 จุด เร่งจัดหาอุปกรณ์ป้องกันและควบคุมโรคให้บุคลากรทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลวางแผนมาตรการรองรับผู้ที่ป่วยโควิด-19 ที่อาจจะมีมากขึ้นในอนาคต เตรียมเปิดโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นอาจใช้อาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (ศูนย์ OTOP) ของ อบจ.ลำปาง และ อ.เกาะคา หรืออาจปรับระบบบริการใน รพ.ชุมชน รองรับผู้ป่วยด้วย จัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเพิ่มอีก 30 เครื่อง จากเดิมที่มีอยู่ 40 เครื่อง

โรงพยาบาลลำปาง ปรับปรุงอาคารเมตตา ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยทั่วไป เป็นสถานที่ตรวจรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รองรับผู้ป่วยได้ราว 60 ราย จัดทำห้อง Nagative pressureเพิ่ม รวมเป็น 12 ห้อง รองรับผู้ป่วยอาการหนัก      

ล่าสุดขอความร่วมมือข้าราชการ และเจ้าหน้าที่งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 เมษายน

ตั้งเพจ facebook ชื่อ “ศูนย์ข้อมูล Covid-19 จังหวัดลำปาง” ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางใช้สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน ป้องกันความสับสนในพื้นที่ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปางเป็นผู้ประสานงาน

อ่างทองสแกนกลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ ป้องกันโควิด-19

จ.อ่างทอง ก็เป็น 1 ใน 4 จังหวัดภาคกลาง ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมาตราการในการคัดกรองผู้เดินทางผ่านเข้าออกจังหวัดอย่างเข้มข้น สแกนกลุ่มเสี่ยงทุกพื้นที่ ประชาชนต่างให้ความร่วมมือในการคัดกรอง การร่วมมือของเอกชนในการจัดซื้อรถพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโดยไม่รองบประมาณจากภาครัฐ และการร่วมมือของแม่ค้าพ่อค้าในจังหวัดที่ตื่นตัวในการร่วมกันป้องกัน มาตรการการไม่ขายของให้กับผู้ไม่ใส่หน้ากาอนามัย การใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่ อีกทั้งยังสื่อสารสร้างความเข้าใจกับประชาชนอย่างถูกต้องผ่านช่องท่างต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หอกระจายข่าวหมู่บ้าน และแอปพลิเคชันไลน์ “อ่างทองสู้ โควิค-19” รวมถึงมีการลงทะเบียนผู้เข้าออกในพื้นที่ เพื่อติดตามคัดกรองบุคคลได้อย่างทั่วถึง

สำหรับจังหวัดอ่างทอง ยังไม่พบผู้ป่วยโควิค-19 มีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและเข้าข่าย 19 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อไวรัส กลุ่มเฝ้าระวัง 14 วัน จำนวน 120 ราย ครบกำหนดแล้ว 70 ราย เหลือที่ยังต้องระวังอีก 50 ราย. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว