ภูมิภาค 1 เม.ย. – กรณีผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครนายก ป่วยโควิด-19 ทำให้วันนี้ต้องทำความสะอาดเรือนจำอย่างเข้มข้น อีกทั้งต้องนำตัวผู้ใกล้ชิด 14 คน ส่งไปกักตัว 14 วัน
นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่ติดตามกรณี นพ.บุญมี วิบูลย์จักร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครนายก ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ และนำตัวเข้ามารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร โดยประสานงานกับ สสจ.นครนายก รวมถึงสำนักงานควบคุมโรคเขต 4 เพื่อซักประวัติผู้ป่วย คัดกรองผู้ใกล้ชิด และเก็บตัวอย่างจากเจ้าหน้าที่กับผู้ต้องขังในพื้นที่ โดยมีกำลังตำรวจและทหารเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ
ส่วนที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ ซึ่งเป็นถนนคนเดินของจังหวัด เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนครนายกนำรถน้ำฉีดทำความสะอาดบริเวณถนน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วนภายในเรือนจำมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคเข้ามาตรวจสอบและเร่งทำความสะอาด นอกจากนีได้สั่งให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.เมืองนครนายก พร้อมอาวุธครบมือ 10 นาย ลงพื้นที่วางกำลังป้องกันโดยรอบ พร้อมให้ตำรวจจราจรปิดถนนหน้าเรือนจำ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังเชิญผู้คุมเรือนจำ 14 คนที่ใกล้ชิดกับ ผบ.เรือนจำนครนายก ขึ้นรถไปกักตัวที่ศูนย์ฝึกอบรมของมูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครนายก เป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำการสอบสวนโรค ขณะที่ผู้ที่เคยเข้าร่วมประชุมกับ ผบ.เรือนจำนครนายก 4 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด, ปลัดอำเภอ, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 2 และพ่อบ้านเรือนจำได้ถูกพาไปกักตัวเช่นเดียวกัน
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่ายังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ที่ ผบ.เรือนจำนครนายกติดเชื้อ”โควิด-19 ต้องรอการสอบสวนโรคอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปในเรือนจำในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เพื่อความสบายใจ จะคัดกรองพื้นที่ด้านในทั้งหมด ภาพรวมมีผู้ต้องขัง 988 คน มีเจ้าหน้าที่ 49 คน
ยธ.สั่งรื้องบราชทัณฑ์-เร่งสร้างเรือนนอนลดแออัด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้รับรายงานจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า ผบ.เรือนจำนครนายก ไม่ได้เข้าไปในแดนคุมขัง แต่มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่บริเวณภายนอก และมีการทำประกันโควิด-19 ให้แล้ว โดยจะได้รับเงินชดเชย 200,000 บาท
นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรม สั่งประสานให้ฝ่ายวิชาการให้ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 ในเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ที่แท้จริง ไม่ให้เกิดความหวาดกลัวจนเสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรงหรือการก่อจลาจล พร้อมสั่งให้กรมราชทัณฑ์ปรับงบประมาณที่ไม่จำเป็น แต่ให้เน้นไปที่การลดความแออัดของนักโทษเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด ด้วยการสร้างเรือนนอน 2 ชั้น โดยให้แต่ละเรือนจำจัดหาซื้อไม้และอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนให้นักโทษระดมกำลังช่วยกันก่อสร้าง. – สำนักข่าวไทย