คนไทยกลับจากมาเลเซียกลับบ้านได้แล้ว 29 ราย หลังกักตัว 14 วัน

ยะลา 5 พ.ค. – คนไทยกลับจากมาเลเซียที่กักตัวอยู่ภายในศูนย์สังเกตการโรคสำคัญ โควิด-19 จ.ยะลา ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านแล้ว หลังกักตัวครบ 14 วัน ทั้งหมดปลอดเชื้อ

นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เข้าพบปะผู้ที่อนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ หลังกักตัว 14 วัน ซึ่งเป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งหมดปลอดเชื้อ และได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์สังเกตการโรคสำคัญ โควิด-19 จังหวัดยะลา เป็นอย่างดี

ทางจังหวัดยะลาได้มอบหนังสือผ่านการกักตัว 14 วัน คู่มือ และเอกสาร เพื่อใช้ในการยืนยันการกักตัว ให้กับผู้ที่ได้รับอนุญาตทั้ง 29 ราย แยกเป็นคนในพื้นที่จังหวัดยะลา 3 ราย และเป็นคนที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดต่างๆ อีก 26 ราย ทั้งนี้ ผู้เดินทางกลับทั้งหมดจะเดินทางโดยรถทัวร์ มีรถนำจากเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดยะลาไปส่งยังเป้าหมายปลายทาง   

หนึ่งในผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ เปิดเผยว่า ดีใจมาก ศูนย์สังเกตการโรคสำคัญ โควิด-19 จังหวัดยะลา ให้การดูแลเป็นอย่างดี ประทับใจมาก และปฏิบัติตามกฎระเบียบของศูนย์อย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้กลับไปอย่างปลอดภัย อยากให้ทุกคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศไม่ต้องกลัวในการกักตัว เจ้าหน้าที่ของจังหวัดยะลาดูแลเป็นอย่างดีมาก

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่มัสยิด หมู่ที่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทีมสอบสวนโรคจากโรงพยาบาลบันนังสตา สาธารณสุขอำเภอบันนังสตา ลงพื้นที่ตรวจสแกนหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการเชิงรุกในการปฏิบัติหน้าที่ยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังจากในพื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลตาปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ได้พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้จำนวน 22 ราย    


นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจไป 5 อำเภอ ทั้งอำเภอเมือง รามัน ธารโย ยะหา และบันนังสตา ที่มีการเก็บตัวอย่างมากสุดกว่า 2,000 คน และก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 72 คน ต้องเก็บตัวอย่างผู้สัมผัส 1,400 คน ให้เสร็จภายใน 3 วันนี้

ทั้งนี้ ทางจังหวัดยะลา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ต้องเปิดปฏิบัติการเชิงรุกตรวจเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัส เป้าหมายทั้งตำบล 838 คน ซึ่งประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ในห้วงของเดือนรอมฎอน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำเป็นต้องมาเก็บตัวอย่างในช่วงกลางคืน เพราะในช่วงนี้พี่น้องมุสลิม ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน ต้องถือศีลอดในช่วงกลางวัน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.