ปัตตานีเสียชีวิตรายแรกติดโควิด-19 เป็นชายวัย 77 ปี

ภูมิภาค 1 เม.ย. – ปัตตานีติดโควิด-19 เสียชีวิตรายแรกของจังหวัด เป็นชายวัย 77 ปี ป่วยโรคเบาหวานขั้นรุนแรง เป็นโรคถุงลมโป่งพอง และปอดอักเสบเรื้อรังมานาน ส่วนที่ยะลามีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 1 คน ยอดสะสม 41 คน ขณะที่ผลตรวจพระอาคันตุกะ 10 รูป จากมาเลเซีย ไม่มีอาการอาพาธ แต่ที่กระบี่ติดเชื้อเพิ่ม 2 ยอดสะสม 10 คน บางละมุง จ.ชลบุรี ติดเชื้อ 18 คน ต่างชาติ 10 คนไทย 8 


นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ด่านตรวจสกัดโควิด-19 ปัตตานี-สงขลา ในอำเภอหนองจิก เพื่อให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 1 ราย เเป็นชายวัย 77 ปี เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานขั้นรุนแรง และปอดอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานาน อีกทั้งพบเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ต้องรักษาตัวเป็นประจำ 


เบื้องต้นพบติดเชื้อจากลูกชายที่ป่วยโควิด-19 หลังไปชุมนุมทางศาสนาที่มาเลเซีย จากนั้นผู้เสียชีวิตได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม แต่ปฏิเสธใช้เครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 06.00 น. 

ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ย้ำว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หรือผู้มีโรคประจำตัว ควรอยู่แต่ในบ้าน เพราะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อขั้นรุนแรงได้


บุคลากรทางการแพทย์ยะลาติดเชื้อ 1 คน ยอดสะสม 41 คน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ออกประกาศยืนยันพบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 คน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำ รพ.สต.บ้านยะลา ติดเชื้อจากสามีที่สัมผัสผู้ป่วยจากสุราษฎร์ธานี โดยที่ รพ.สต.บ้านยะลา พบเจ้าหน้าที่อาการเข้าข่าย 2 คน จึงต้องส่งตรวจเชื้อ ส่วนอีก 5 คน ไม่มีอาการให้กักตัวที่บ้าน ส่วน รพ.สต.บ้านยะลา ได้ประกาศงดให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม แต่ได้เปิดให้บริการแล้วในวันนี้ (1 เม.ย.) โดยหมุนเวียนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดไปให้บริการ

ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันนี้ 3 คน รวมป่วยสะสม 41 คน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และอยู่ระหว่างรอผลตรวจอีก 59 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย

ผลตรวจพระอาคันตุกะ 10 รูป จากมาเลเซีย ไม่มีอาการอาพาธ

ที่วัดมหัตตมังคลาราม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้กักตัวพระอาคันตุกะ 10 รูป ที่เดินทางมาจากมาเลเซีย 14 วัน รวมถึงให้พระสงฆ์และเณร 65 รูป ต้องกักตัว ล่าสุดครบกำหนด 14 วันแล้ว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าตรวจอาการทั้ง 75 รูป ปรากฏว่าทุกคนมีอาการปกติและไม่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 อยางไรก็ตาม หัวหน้าพระวินยาธิการยังให้งดการบิณฑบาตและให้อยู่แต่ในวัดเท่านั้น

กระบี่ติดเชื้อเพิ่ม 2 ยอดสะสม 10 คน

ขณะที่จังหวัดกระบี่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19″เพิ่มอีก 2 คน รวมสะสม 10 คน โดยผู้ป่วยรายที่ 8 เป็นชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาจากเยอรมนี ไปลงที่สนามบินภูเก็ต ก่อนเดินทางไปที่เกาะพีพีและเกาะลันตา และสัมผัสกับผู้ใกล้ชิดระหว่างวันที่ 17-27 มีนาคม หลายคน จึงแจ้งให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นการด่วน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเฝ้าระวังสูงสุดในเขตอำเภอเมือง เพราะมีจำนวนผู้ป่วย 5 คน รวมถึงเกาะลันตาที่มีผู้ป่วย 3 คน ซึ่งตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน ได้ขอความร่วมมือประชาชนหยุดอยู่บ้าน 

บางละมุงติดเชื้อ 18 คน ต่างชาติ 10 คนไทย 8 

ส่วนที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นายอำเภอบางละมุงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 18 คน แบ่งเป็นคนไทย 8 คน และต่างชาติ 10 คน กระจายในเมืองพัทยา, เทศบาลเมืองหนองปรือ และตำบลอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ติดตามผู้ใกล้ชิดมาคัดกรองโรคแล้ว พร้อมประชาสัมพันธ์ให้อยู่บ้านเพื่อป้องกันการกระจายโรค โดยเจ้หน้าที่ได้ตั้งด่านคัดกรองโรคเข้มเข้มข้น

อำนาจเจริญติดเชื้อ 1 คน เพิ่งกลับจากเนเธอร์แลนด์

เช่นเดียวกับที่อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 1 คน ในพื้นที่อำเภอปทุมราชวงศา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในจังหวัดมีทั้งหมด 2 คน นอกจากนี้มีรายงานว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดเพิ่งเดินทางกลับมาจากเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เมื่อถึงสุวรรณภูมิได้นั่งเครื่องบินไทยสมายล์ไปที่อุบลราชธานี ก่อนนั่งรถโดยสารจากสนามบินอุบลราชธานี ไปที่ขนส่งอุบลราชธานี และนั่งรถตู้ที่มีผู้โดยสาร 8 คน จากขนส่งอุบลราชธานี มาที่อำนาจเจริญ และสำคัญคือนั่งเบาะหลังคนขับรถตู้

จากนั้นในวันที่ 31 มีนาคม มีอาการป่วย และเข้าตรวจร่างกายจึงพบเชื้อ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยังไม่ได้แถลงข้อมูลลำดับเหตุการณ์ผู้ป่วยรายนี้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

ศรีสะเกษพบผู้ติดเชื้อ 2 คน แต่ภาพรวมทุกคนอาการดี

ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 คน ทำให้ยอดสะสมรวมเป็น 8 คน ภาพรวมรักษาหายแล้ว 1 คน เหลืออีก 7 คนอาการดีขึ้น ส่วนผู้สัมผัสหรือผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อได้ติดตามตัวมาสอบสวนโรคอย่างละเอียด ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักกันอย่างเข้มข้น ส่วนการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำลังให้นิติกรประเมินสถานการณ์ว่าจะประกาศห้ามจำหน่ายในเร็วๆ นี้หรือไม่.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว