ยุโรป 1 เม.ย.- สถานการณ์ในยุโรปทั้งอิตาลี และอังกฤษ ต่างอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ จากการระบาดของโรคโควิด-19
กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ในประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 381 คน นับเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 มากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในประเทศ ในจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่นี้ มีเด็กชายวัย 13 ปีรวมอยู่ด้วย และเชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุดในอังกฤษ จนถึงขณะนี้ อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วกว่า 25,000 คน เสียชีวิตสะสมอีกกว่า 1,700 คน
ด้านนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยอังกฤษต้องเร่งเดินหน้าตรวจทดสอบการติดเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคคลกลุ่มอื่นๆ โดยเร็ว ขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษได้ส่งเครื่องช่วยหายใจกว่า 8,000 เครื่องไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว แต่ยังมีความต้องการเครื่องช่วยหายใจอยู่อีกมาก เพื่อนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยติดเชื้อ
ขณะเดียวกัน อังกฤษได้เร่งก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ขนาด 4,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ โดยโรงพยาบาลแห่งใหม่นี้เป็นการนำศูนย์แสดงสินค้ากลางกรุงลอนดอน มาดัดแปลงให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว และคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายสัปดาห์นี้
ส่วนที่อิตาลี ล่าสุดมีการเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่า 800 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในอิตาลี เพิ่มขึ้นกว่า 12,000 คนแล้ว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่กว่า 4,000 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับขึ้นไปอยู่ที่กว่า 100,000 คน ทางการอิตาลียังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเว้นระยะห่างทางสังคม ว่าเป็นกฎเหล็กที่อิตาลีต้องบังคับใช้ไปอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของอิตาลี ได้เข้าทำความสะอาดจัตุรัสอิล ดูโอโม ที่ตั้งของมหาวิหารที่มีชื่อเสียง กลางเมืองมิลาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่.-สำนักข่าวไทย