นักวิชาการ-โบรกเกอร์ ชี้ พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน จำเป็นในภาวะวิกฤตโควิด-19

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.63 – “ธนวรรธน์” ชี้ พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน จำเป็นในภาวะวิกฤตโควิด-19 เหตุความเสียหายจากโควิด-19  สูงเกิน 1 ล้านล้านบาท ขณะที่งบประมาณปี 63 ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศณษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุถึงกรณีที่กระทรวงคลังเตรียมออก พ.ร.ก. เงินกู้ฉุกเฉิน 200,000 ล้านบาท นั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น  เพราะตัวเลขประเมินความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ คาดว่าอาจจะสูงเกิน 1 ล้านล้านบาท ขณะที่งบประมาณปี 63 ที่มีอยู่ไม่เพียงพอในการนำมาใช้ แม้หลายส่วนเสนอให้ดึงงบประมาณลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐมาใช้ในส่วนกลางก็ตาม แต่หากดูจากตัวเลขจะมีเพียงประมาณ 450,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมในการกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายฉุกเฉิน แต่ทั้งนี้เมื่อ พ.ร.ก. ออกมาแล้วจะมีการกู้ผ่านหรือไม่ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยขณะนี้ถือว่าวิกฤตและมีความต่างจากตอนเกิดวิกฤตที่ผ่านมา เช่น วิกฤตต้มยำกุ้งที่ความเสียหายเกิดขึ้นภายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เกิดขึ้นจากนอกประเทศเป็นหลัก แต่วิกฤตขณะนี้เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ ดังนั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงทำได้ยากกว่าช่วงที่ผ่านมา  ขณะที่มาตรการของภาครัฐ ที่รวมถึงการแจกเงิน 5,000 บาท และมาตรการลดดอกเบี้ย พักชำระเงินกู้จากแบงก์ชาติ และสถาบันการเงินต่างๆ ที่ออกมาขณะนี้ เป็นเพียงการช่วยประคองเท่านั้น ยังไม่ใช่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 


นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ  บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า การที่รัฐบาลเตรียมออกพ.ร.ก.เงินกู้ใม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ในภาวะที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายมีไม่เพียงพอ ขณะที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง และมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปี 2563   หดตัวที่ 5.3 % ดังนั้นจึงต้องมีเม็ดเงินเข้ามาช่วยในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และ ประคองเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นไปได้ 

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่าขณะนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นรับมาตรการที่ธนาคารกลางหลายๆ แห่ง ออกมาตการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ ที่อัดฉีดคิวอีแบบไม่จำกัดวงเงินจนกว่าตลาดการเงินจะเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งการที่สภาคองเกรสผ่านงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือภาคธุรกิจของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล 

อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความผันผวนสูง จากตัวเลขการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรปซึ่งมีสัดส่วนจีดีพีโลกถึง 50%  ขณะที่ไทย คาดว่าการแพร่ระบาดจะพีคในช่วงเดือมีนาคม-เมษายน ทำให้คาดว่าจีดีพีไทยครึ่งปีแรกมีโอกาสติดลบมากกว่า 10% และดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังแต่ยังคงเป็นตัวเลขติดลบ และทั้งปีมีแนวโน้มที่อาจติดลบมากกว่า 5.3% ซึ่งเป็นตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประเมินไว้ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นกินเวลาไปถึงเดือนพฤษภาคม  

“แม้ขณะนี้หุ้นหลายตัวราคาถูกลง แต่ยังไม่ใช่เวลาไล่ซื้อหุ้น เพราะช่วงนี้ตลาดยังมีความผันผวนรุนแรง หรือหากมีสภาพคล่องเพียงพอ อาจมองที่หุ้นกลุ่มปลอดภัย ที่งบดุลแข็งแรง และมีปันผล 4-5% เช่น INTUCH , ADVANC , กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน DIF และ BAM เป็นต้น “ นายพิชัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ