ทำเนียบฯ 26 มี.ค.- นายกฯ เรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งแรก ชี้การออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีความจำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดหยุดยั้งการแพร่ระบาดในช่วงนี้ สั่งเดินหน้าสร้างความเขื่อมั่นในโซเชียล ลดข่าวปลอม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) เรียกประชุมหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานผู้ปฎิบัติหน้าที่ในการแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ครั้งแรกหลัง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอายุเกิน 70 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ และห้ามออกจากเคหะสถาน ตามข้อกำหนด ในมาตรา 9 การบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 1 แต่ยังมาประชุม เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนการประชุม ว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในสถานการณ์ระดับที่รัฐบาลต้องใช้ การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รวมอำนาจการบริหาร ออกข้อกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสังคมและประชาชนในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถแก้ไขปัญหาลดการแพร่ระบาดได้ จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่งได้มอบแนวทางการปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน สั่งการให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามภาระหน้าที่ จัดทำแผนดำเนินงานให้เรียบร้อย ขณะที่เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ขอให้ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อลดข่าวปลอม และให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลแก้ไขปัญหา เรื่องอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น และต้องนำเข้าจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย