กรุงเทพฯ 25 มี.ค. –กองปราบจับกุมผู้ต้องหาหลอกชาวบ้านร่วมลงทุนการค้าปุ๋ยเคมี โดอยอ้างจะได้ผลตอบแทนสูง มีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมากรวมสูญเงินกว่า10 ล้านบาท สุดท้ายหอบเงินหลบหนี จนถูกออกหมายจับถึง 13 หมาย
น.ส.จำปี (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๖ปี โดยจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร รวม 13 หมายจับตั้งแต่ปี 2558 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อประมาณปี 2558 น.ส.จำปีฯ ผู้ต้องหาได้หลอกลวงชักชวนให้ผู้เสียหายหลายรายร่วมลงทุนการค้าปุ๋ยเคมี โดยมีเงื่อนไขว่า หากลงทุนสูง จะได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งนายไกรสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้นำเงินไปลงทุนกับผู้ต้องหาจำนวน 5 แสนบาท ช่วงแรกได้ผลตอบแทนเดือนละ 1 หมื่นบาทจริง แต่ช่วงหลังไม่ได้เงินตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ต่อมาทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่า สามีของนางจำปีฯได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นางจำปีฯ หายตัวไป โดยสามีของนางจำปีฯ เกรงว่านางจำปีฯจะถูกลักพาตัวหรือถูกอุ้ม เนื่องจากขบวนการค้าปุ๋ยเคมีที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ที่นางจำปีฯทำงานเป็นนายหน้าให้ เมื่อทราบดังนั้นทางผู้เสียหายจึงรวมตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนและแจ้งความดำเนินคดี โดยมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 50 ราย มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
จนกระทั่ง วันที่ ๒๔ มี.ค.๖๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๔ กองบังคับการปราบปราม สืบสวนจนทราบว่า น.ส.จำปีฯ ได้มาทำงานอยู่ที่ บริษัทแห่งหนึ่งใน ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงพบ น.ส.จำปีฯ เดินอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนนาแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม น.ส.จำปีฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจากการสอบถามเบื้องต้นเหตุที่ น.ส.จำปีฯ ออกมาจากบ้าน เนื่องจากไม่มีเงินไปชดใช้ให้ผู้เสียหายที่ตนเองเคยหลอกลวงไว้ จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเอง ไม่ได้มีการลักพาตัวแต่อย่างใด
หากมีผู้เสียหายท่านใดได้รับความเสียหาย สามารถติดต่อมายังกองบังคับการปราบปรามหรือ สถานีตำรวจโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป .- สำนักข่าวไทย