กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – สถาบันสิ่งทอเตรียมเปิดตัวมาตรฐานผ้าทำหน้ากากอนามัย 25 มี.ค.นี้ เน้นศักยภาพกรองอนุภาคขนาดเล็ก
นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจรับรองคุณภาพผ้าที่จะนำมาใช้ผลิตหน้ากากผ้า เพื่อใช้แทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ขณะที่กำลังการผลิตในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ว่า ประเทศไทยมีผ้าในสตอกจำนวนมากเพียงพอที่จะผลิตหน้ากากผ้า ขอประชาชนอย่าได้กังวล อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอจำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพผ้าว่าชนิดใดจะมีคุณสมบัติเหมาะสมผลิตหน้ากากผ้าได้ ตั้งแต่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศนโยบายผลิตหน้ากากผ้าแจก 10 ล้านชิ้นแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองและตามหัวเมืองต่างจังหวัดที่ประชากรมาก มีผู้ประกอบการให้ความสนใจ ทยอยส่งผ้ามาให้สถาบันฯ ตรวจสอบและให้การรับรองไปแล้วจำนวนหนึ่ง
สำหรับคุณลักษณะผ้าที่ใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะเน้นผ้าที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม ซึ่งทางสถาบันฯ จะเปิดตัวการตรวจสอบมาตรฐานผ้าสำหรับทำหน้ากากผ้าวันที่ 25 มีนาคมนี้ โดยจะเป็นการทดสอบคุณภาพการกรองอนุภาคต่าง ๆ เบื้องต้น ทดสอบ 4-5 คุณสมบัติ
ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 เรื่องข้อแนะนำคุณลักษณะผ้าที่ใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการกำหนดคุณลักษณะผ้า ทั้งด้านคุณภาพผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าทอหรือผ้าถัก ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เส้นใยประดิษฐ์ หรือเส้นใยผสม และไม่ครอบคลุมผ้าที่ผลิตจากผ้าไม่ทอไม่ถัก (nonwoven) ด้านวัสดุ เป็นผ้าทอหรือผ้าถักทำจากเส้นใยธรรมชาติ เส้นใยประดิษฐ์ หรือเส้นใยผสม ลักษณะทั่วไป ต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นที่ไม่ประสงค์ และไม่มีลายพิมพ์ อ่อนนุ่มต่อผิวสัมผัสและไม่เกิดการระคายเคือง และเนื้อผ้าต้องปราศจากข้อบกพร่องที่มีผลต่อการใช้งาน เช่น ผ้าแยก ผ้าขาด เป็นรู ขณะที่น้ำหนักต่อหน่วยพื้นที่ต้องไม่น้อยกว่า 80 กรัมต่อตารางเมตร และไม่เกิน 220 กรัมต่อตารางเมตร
ด้านคุณลักษณะด้านความปลอดภัย สีเอโซ (azo dye) ที่ให้แอโรแมติกแอมีน (aromatic amine) ต้องไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ยกเว้นผ้าขาว และผ้าไม่ย้อมสี) ปริมาณฟอร์แมลดีไฮด์ ต้องน้อยกว่า 75 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ทดสอบตาม มอก. 121 เล่ม 33) ความคงทนของสี (ยกเว้นผ้าขาว และผ้าไม่ย้อมสี) ความคงทนของสีต่อการซัก (ทดสอบตาม มอก. 121 เล่ม 3 วิธี A(1)) (เกรย์สเกล ระดับ) การเปลี่ยนสี ไม่น้อยกว่า 3 การตกติดสี ไม่น้อยกว่า 3
สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอยังร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินโครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563 หรือคลัสเตอร์ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่มและไลฟ์สไตล์ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ภายใต้แนวคิด BCG Fashion Lifestyle โดยเน้นพัฒนาใน 5 กลุ่มเครือข่ายธุรกิจคือ เครือข่ายคลัสเตอร์สิ่งทอการกีฬาและนันทนาการ คลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยกัญชง คลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและไลฟ์สไตล์สำหรับผู้สูงอายุ คลัสเตอร์ชุดเครื่องแต่งกายและผลิตภัณฑ์สำหรับกิจกรรมสันทนาการแต่งตัวเลียนแบบตัวละคร และคลัสเตอร์สิ่งทอหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืน . – สำนักข่าวไทย
