กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ ออกประกาศเฝ้าระวัง ป้องกัน และการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดโรค COVID-19 สนองมาตรการรัฐเข้มข้น กำหนดลักษณะงานที่ให้ทำที่บ้าน ลดความแออัด ย้ำต้องรักษาประสิทธิภาพในการทำงานและไม่กระทบต่อการดูแลและช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งและบริหารจัดการสินค้าเกษตรช่วงที่มีการระบาดของโรค
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามในประกาศกระทรวงฯ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดโรค COVID-19 ซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จากการที่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็นสำคัญและเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปในประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อเช่น คัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การวางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน การทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการในแต่ละช่วงเวลารณรงค์ให้บุคลากรสวมใส่หน้ากากผ้า เมื่อเดินทางเข้าสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ให้ลดความแออัดของ สถานที่ทำงาน โดยเหลื่อมเวลาทำงาน เหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหาร และจัดที่นั่งให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ร้านค้า ร้านอาหาร ให้มีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ เช่น การทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัส ห้องสุขา การคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน การดูแลสุขภาพและป้องกันการติดเชื้อของพนักงาน เช่น ใช้หน้ากากผ้า การจัดเจลล้างมือ และการจัดการขยะ นอกจากนี้ให้งดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่เช่น การจัดประชุมสัมมนา และจัดงานแสดงสินค้าเกษตร งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายบุคลากรจำนวนมากข้ามจังหวัด หากจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันโรค รวมถึงการประชุมทางไกล กรณีมีบุคลากรในสังกัดเข้าข่ายต้องสังเกตอาการ 14 วัน ให้รายงานสถานการณ์และวิธีการควบคุมของหน่วยงาน อีกประการที่สำคัญคือ ให้หน่วยงานกำหนดแนวปฏิบัติให้บุคลากรปฏิบัติงานที่บ้านหรือนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 โดยส่งเสริมให้ประสานงานและรายงานผลปฏิบัติงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมถึงการประชุมทางไกล
“มอบหมายปลัดกระทรวงฯ จัดสรรลักษณะงานว่า งานใดปฏิบัติจากที่บ้านหรือนอกสถานที่ได้เพื่อลดจำนวนคนที่จะมารวมกันในสำนักงาน แต่ย้ำว่าข้าราชการกระทรวงเกษตรต้องดูแลเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและด้านสินค้าเกษตรจากการระบาดของโรค COVID-19 ดังนั้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานต้องดีเท่ากับภาวะปกติ ตลอดจนไม่กระทบต่อการมาติดต่อราชการของประชาชน” นายเฉลิมชัยกล่าว
ด้านนายระพีพัฒน์ จันทร์ศรีวงศ์ เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสศก. ขึ้นเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันโรคตามนโยบายของรัฐบาล โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคพิจารณาศึกษาแนวทางการทำงานที่บ้าน อีกทั้งเตรียมระบบสนับสนุนการทำงานแบบประชุมทางไกลหรือระบบต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กำหนดประเภทงานและข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผลัดเวรให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเฉพาะที่จำเป็นเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้มาติดต่อราชการ และมอบหมายงานที่จะให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภายในที่พักอาศัย โดยจะมีการกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด รูปแบบการติดต่อสื่อสาร การติดตามประเมินความก้าวหน้า และการรายงานผลการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่จำเป็นต้องจัดประชุม อบรม ที่จำเป็นได้กำหนดให้มีการแบ่งกลุ่มให้ชัดเจน โดยไม่ให้รวมกลุ่มเกิน 50 คน ตามมาตรการตามที่สาธารณสุขกำหนด รวมถึงการจัดที่นั่งประชุมให้มีระยะห่างประมาณ 1 เมตร ตามหลัก Social Distance ตลอดจนให้จัดการรับประทานแบบอาหารจานเดียวหรืออาหารกล่อง เป็นต้น ทั้งนี้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ที่ให้ทุกหน่วยงานร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งจะเป็นการดูแลคนใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน และสังคมไทยทั้งหมดให้ผ่านวิกฤติไปด้วยกันให้ได้.-สำนักข่าวไทย