กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – กรมการขนส่งทางบกแนะประชาชนชำระภาษีรถออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th ลดความเสี่ยงจาก COVID-19
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกห่วงใยประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แนะนำให้เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ยังไม่ครบกำหนดต้องตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปี ประกอบด้วย รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และสามารถเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน
ส่วนการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีช่องทางอื่น ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) บริการชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าวันเสาร์-อาทิตย์ ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet mPAY ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกยังคงให้บริการประชาชนทุกกระบวนงาน ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งหน่วยงานในสังกัดของกรมการขนส่งทางบกทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจะมีการตั้งจุดคัดกรองภายนอกอาคารเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคนที่เข้ามารับบริการ หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ไม่อนุญาตให้เข้าไปในอาคาร ประสานแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก และในพื้นที่หรือบริเวณที่เป็นจุดสัมผัส เช่น มือจับปิด-เปิดประตู พร้อมจัดให้มีจุดบริการแอลกอฮอล์เจลในพื้นที่ส่วนกลางที่มีการใช้งานร่วมกัน เจ้าหน้าที่ให้บริการใกล้ชิดประชาชนต้องสวมหน้ากากป้องกันทั้งตนเองและประชาชนผู้มาติดต่ออย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อแพร่กระจายของโรค .-สำนักข่าวไทย