สหรัฐ 18 มี.ค.- ผู้นำสหรัฐมีแผนจะอัดฉีดงบประมาณกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเกินกว่า 100 คนแล้ว
สถานการณ์ในสหรัฐขณะนี้มีผู้ติดเชื้อครบทั้ง 50 รัฐ และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกิน 6,400 คนแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 112 คน รัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ นิวยอร์ก วอชิงตัน และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งขณะนี้ทางนครนิวยอร์กกำลังพิจารณาที่จะสั่งให้ประชาชน 8.5 ล้านคน อยู่แต่ในบ้านเรือนขณะที่มีหลายเมืองเพิ่มนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการปิดโรงเรียน ร้านอาหาร และโรงละคร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ระบุว่า ทางทำเนียบขาวอาจสั่งการให้ทหารจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักหากได้รับการร้องขอจากผู้ว่าการรัฐ หรือส่งทหารช่างไปดัดแปลงโรงพยาบาลที่มีอยู่ให้รองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนจะอัดฉีดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นงบช่วยเหลือสายการบินที่ประสบปัญหาล้มละลายจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแผนการดังกล่าว ทรัมป์กำลังพิจารณาจะส่งเช็ค 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,000 บาทให้แก่ชาวอเมริกันภายในเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาก่อน
โดยทางนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า หากสภาไม่ผ่านความเห็นชอบในเรื่องนี้ จำนวนคนว่างงานในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นถึง 20% มีการเปิดเผยว่าในร่างกฎหมายที่จะส่งเข้าสู่สภานั้น นอกจากเรื่องงบประมาณจำนวนมหาศาลแล้ว ยังครอบคลุมเรื่องการตรวจหาเชื้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การอนุญาตให้ลาหยุดโดยได้รับค่าจ้าง และการชดเชยการว่างงาน นอกจากนี้ นายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเผยว่า ทางกระทรวงกลาโหมจะจัดหาหน้ากากอนามัย 5 ล้านชิ้น และเครื่องช่วยหายใจ 2,000 ชุด ให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลาง เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด.-สำนักข่าวไทย