6 องค์กรวิชาชีพ ร่วมเเถลงเสนอ สื่อ,รัฐ และปชช. รับมือการนำเสนอข้อมูลช่วงโควิด-19

กทม 14 มี.ค.- 6 องค์กรวิชาชีพ ขอสื่อยึดถือหลักจริยธรรมในการเสนอข่าว พร้อมศึกษาข้อบังคับที่ใช้ในภาวะวิกฤติ พร้อมระมัดระวังการเเชร์ข่าวปลอม ควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลหลายๆ เเหล่ง 





จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้การแพร่ระบาดจากโรคระบาด (Epidemic) เป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลก (Pandemic) อย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้จัดตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)” โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย 



สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ 

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ 

และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย 

ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวด้วยความห่วงใย จึงเสนอแนะและเรียกร้องมายังฝ่ายต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.ขอให้สื่อมวลชนทุกสำนักยึดมั่นจริยธรรม โดยนำเสนอข้อมูลข่าวสารตาม “แนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนในภาวะวิกฤติ”  ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพที่อันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชน ซึ่งระบุว่า “พึงระมัดระวังการสร้างความตื่นตระหนก จากการนำเสนอโดยการคาดเดา หรือไม่ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หรือหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับสาเหตุการแพร่ระบาดของโรคหรือสถานการณ์ภัยสุขภาพ รวมถึงวิธีการป้องกัน แก้ไข และรักษา” เพื่อนำไปสู่การบรรเทาความเสียหายและคลี่คลายวิกฤติการณ์ นอกจากนี้ ต้องศึกษากฎหมาย ข้อกําหนด หรือข้อตกลงที่บังคับใช้ในภาวะวิกฤติ เพื่อมิให้การปฏิบัติงานข่าวกระทบต่อประโยชน์หรือความปลอดภัยสาธารณะ 

2.ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญและระมัดระวังเป็นพิเศษในการสื่อสารในภาวะวิกฤติ ในสถานการณ์ที่สังคมต้องการข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน เชื่อถือได้ ไม่เกิดความสับสน และสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติตัว

3. ขอให้ผู้บริหารสำนักข่าวทุกสำนักให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของกองบรรณาธิการ ผู้สื่อข่าวที่จะต้องปฏิบัติงานข่าว ลงพื้นที่ทำข่าว รายงานข่าวในสถานการณ์โรคระบาด ด้วยการวางมาตรการตามกฎควบคุมโรค ประเมินความเสี่ยงของสถานที่ และต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ให้ต้องตกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเสียเอง 

4. ขอให้ภาคประชาสังคมและประชาชนทั่วไป ระมัดระวังการส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่อาจจะเป็นข่าวลวง ข่าวปลอม ไม่มีแหล่งที่มา ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับสังคมเพิ่มเติม หากไม่มั่นใจ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง รวมทั้งสื่อมวลชนก่อนทุกครั้ง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน