ศูนย์อนาคตใหม่ ฝั่งธนฯ 23 ก.พ.- อดีตโฆษกและส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พร้อมหลักฐานเด็ด-ขบวนการช่วยเหลืออาชญากรข้ามชาติ หนีกบดานประเทศไทย และเส้นทางกลุ่มคนได้รับผลประโยชน์กองทุน 1MDB ของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เกี่ยวโยงความมั่นคงของไทย พร้อมขอประชาชนเรียกร้องความรับผิดชอบรัฐบาลและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
นางสาวพรรณิการ์ วานิช สมาชิกคณะอนาคตใหม่ จัดอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาครั้งแรก ในหัวข้อ “ฉาวระดับอินเตอร์เนชั่นแนล” ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าก่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพียงวันเดียว ที่ศูนย์ประสานงานอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทาหัวหน้าพรรคประชาชาติ และมีมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวอภิปรายโดยอ้างว่า รัฐบาลชุดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเงินคดีอื้อฉาวทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 1MDB (1Malaysia Development Berhad) ผ่านกองทุนแห่งรัฐ หรือ Sovereign Wealth Fund ที่ก่อตั้งโดยนาย นาจิบ ราซัค ในปี 2008 แต่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องจนมีหนี้สะสม กว่า 3.7 แสนล้านบาทภายใน 6 ปี และในปี 2558 ได้ถูกเปิดโปงข้อมูลหลายแสนล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนชาวมาเลเซียรั่วไหลเข้าสู่กระเป๋าของผู้มีอิทธิพลทั่วโลก และฟอกเงินเป็นทรัพย์สินต่างๆ และมาเกี่ยวข้องกับประเทศไทยในฐานะพันธมิตรมืดในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวอ้างว่ารัฐบาลมีพฤติกรรม ปกปิดข้อเท็จจริงกรณีอาชญากรรมการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปกปิดผ่านกระบวนการยุติธรรม และปล่อยอาชญากรรมข้ามชาติให้ลอยนวล ทั้งที่มีฝ่ายความมั่นคงไทยดูแล แต่กลับพบการให้ที่พำนักและปกปิดข้อมูล กับผู้ต้องหาที่มีหมายแดง ทั้งที่ตำรวจสากลในหลายๆประเทศต้องการตัว จึงถือเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีกับชาติพันธมิตรของไทยและขัดต่อหลักสากลในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ยังพบว่าได้มีการจับกุมนายชาเบียร์ ฆุสโต ผู้เปิดโปงคดี 1MDB ดังกล่าวภายใน 4 สัปดาห์ ที่ประเทศไทยในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ ที่ได้รับสารภาพในเวลาต่อมาว่ากรุเรื่องกองทุน 1MDB ขึ้น เพื่อโจมตีนายนาจิบ ที่พบว่าไม่มีการโอนตัวไปรับโทษที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามคำขอ ทั้งที่มีสัญญายืมตัวนักโทษประกันและเมื่อพ้นโทษถูกห้ามเข้าประเทศไทยจึง 100 ปี แสดงให้เห็นถึงการต้องการปกติข้อเท็จจริงบางประการอย่างชัดเจน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าความมั่นคงและกฎหมายของไทย ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมได้
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่าทั้งหมดนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยได้ว่ารัฐบาลไทยมีส่วนช่วยในการปกปิดคดีอื้อฉาว พร้อมขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของต่างประเทศ ทั้งนี้ตนยืนยันหลักฐานทั้งหมดได้รับการรับรองจากศาลสวิตเซอร์แลนด์แล้วว่าเป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามแม้นายนาจิบ จะไปแล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ ครั้งนี้จึงเป็นการเริ่มต้นเรียกร้องให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อสงสัยของสังคมและรับผิดชอบต่อเรื่องนี้
“อยากให้คนไทยออกมาเรียกร้องให้ทุกคนออกมาตรวจสอบการกระทำทั้งหมดในคดี 1MDB แม้การทุจริตทั้งหมดจะไม่มีใบเสร็จให้ได้ตรวจสอบ แต่ก็เชื่อได้ว่าผู้มีส่วนเกี่ยข้องและผู้มีอำนาจได้รับเงินก้อนโตจากผู้มีอำนาจจากมาเลเซียในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาและสวิสเซอร์แลนด์ กำลังตรวจสอบเรื่องอื้อฉาวนี้อยู่ จึงอยากให้คนไทย ลุกขึ้นมาเรียกร้องถามหาความจริงจากผู้นำที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ เพราะพรรคอนาคตใหม่ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลนี้อีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินใจยุบพรรคอนาคตใหม่”นางสาวพรรณิการ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเปิดเอกสารและคลิปเสียงสนทนาที่เกี่ยวข้องกับคดีประกอบในการอภิปรายนอกสภาดังกล่าวด้วย.-สำนักข่าวไทย
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช ช่างภาพ สำนักข่าวไทย