กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – “ปารีณา” บุกยื่นหนังสือร้องเรียนถึงอธิบดีกรมป่าไม้ตรวจสอบการครอบครองพื้นที่ป่าไม้ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มารดา “ธนาธร” ชี้เป็นความผิดสำเร็จต้องไม่เลือกปฏิบัติ ด้านรองอธิบดีกรมป่าไม้รับหนังสือยืนยันเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ย้ำปฏิบัติทุกกรณีเป็นมาตรฐานเดียวกัน
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือกรมป่าไม้ โดยในหนังสือระบุให้อธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการกรณีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และเคยครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท. 5 และน.ส. 2 อย่างเปิดเผย โดยมีการจัดเวรยามเฝ้าที่ดินดังกล่าว แม้นางสมพร จะคืนที่ดินให้ชุมชนแล้ว แต่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ามีการตัดต้นไม้ในที่ดินตามที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เคยร้องเรียน จึงถามแนวทางการดำเนินการของอธิบดีกรมป่าไม้ว่าเลือกปฏิบัติหรือไม่ หากผลเป็นประการใด ขอให้แถลงให้ทราบ รวมทั้งทำเกิดความยุติธรรมด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นผู้รับหนังสือจาก น.ส.ปารีณา กล่าวว่า จะนำหนังสือเสนอผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าอธิบดีกรมป่าไม้สั่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อร้องเรียนและดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี อีกทั้งสั่งการให้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีนัดนางสมพร มานำชี้แปลงที่ดินและเก็บหลักฐานเพิ่ม ซึ่งศูนย์ป่าไม้ราชบุรีได้ส่งหนังสือไปถึงนางสมพรเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่านางสมพรมาหรือไม่ หากไม่มา เจ้าหน้าที่จะขอให้ผู้ใหญ่บ้านนำชี้ เพื่อรังวัดและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ถ้ามีการกระทำจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย ย้ำว่ากรมป่าไม้ก่อตั้งมา 123 ปีใช้มาตรฐานเดียวไม่มีสองมาตรฐานบิดเบือนกฎหมายไม่ได้ ถูกคือถูก ผิดคือผิด
ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการให้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรีแจ้งนางสมพร ให้นำชี้แปลงที่ดินในการครอบครอง ท้องที่หมู่ที่ 14 ต. รางบัว อ. จอมบึง ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่าเป็นที่ดินซึ่งมีหลักฐานตามกฎหมายหรือไม่ หลักฐานประเภทใด เนื้อที่เท่าไร รวมทั้งจะตรวจสอบว่าเป็นการบุกรุกครอบครองที่ดินรัฐโดยผิดกฎหมายหรือไม่ โดยขอให้นางสมพรนำหลักฐานมาแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ในการนี้ได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งแจ้งหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมตรวจสอบด้วยแล้ว
มีรายงานว่ากรมป่าไม้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวทันทีที่ น.ส.ปารีณา นำชาวบ้าน ต.รางบัว อ.จอมบึงไปร้องเรียนต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นพบว่าที่ดินนางสมพร ครอบครองมีเอกสารสิทธิ์ประเภท ส.ค. 1 และ น.ส. 3 จากกรมที่ดิน ต่อมานางสมพร ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้ชุมชนจัดทำป่าชุมชนตามความประสงค์ แต่กรมป่าไม้ยังดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าเอกสารสิทธิ์ที่นางสมพร ระบุนั้นเป็นเอกสารจริงหรือไม่ หากไม่ใช่ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ที่ดินนั้นอยู่ในสถานะและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใด จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรังวัดและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย