นครราชสีมา 11 ก.พ.-ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเปิดเอกสารการกู้เงินออมทรัพย์พิเศษของผู้ก่อเหตุกราดยิงที่โคราช ที่น่าเชื่อว่าเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจยิงนางอนงค์ มิตรจันทร์ และพันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินและบ้านผู้ก่อเหตุ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย
นี่เป็นเอกสารการจ่ายเงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้รับจากเพื่อนผู้ก่อเหตุที่ใช้ปืนกราดยิงประชาชนในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
เอกสารฉบับนี้ระบุผู้กู้เงินคือ จ่าสิบโทจักรพันธ์ ถมมา โดยขอยื่นกู้เงินออมทรัพย์พิเศษกับกองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก เพื่อนำมาสร้างบ้าน โดยการจ่ายเงินกู้จะแบ่งเป็น 3 งวด งวดล่าสุดคือ งวดที่ 3 จ่ายให้จำนวน 375,000 บาท เมื่อเดือนกันยายน 62 หลังมีการตรวจสอบและพิจารณาจากภาพที่ผู้ก่อเหตุแนบมา ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวที่สร้างเสร็จแล้ว พร้อมติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและน้ำประปาเรียบร้อย
โดยการจัดซื้อที่ดินและสร้างบ้านให้ผู้ก่อเหตุ มีนางอนงค์ มิตรจันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการทำธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นผู้อำนวยความสะดวก เพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์การกู้เงินออมทรัพย์พิเศษ อีกทั้งในหลักเกณฑ์การกู้เงินยังระบุว่าจะต้องมีผู้บังคับบัญชาอนุมัติ ผู้ก่อเหตุก็ได้รับความช่วยเหลือจากพันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และยังเป็นลูกเขยของนางอนงค์ จึงได้รับอนุมัติเงินกู้ในจำนวน 1.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นค่าบ้าน 1.1 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 400,000 บาท คือส่วนต่างที่ผู้ก่อเหตุต้องได้รับ และค่านายหน้าที่ชักชวนให้คนอื่นมาซื้อบ้านในโครงการเดียวกันอีก 50,000 บาท รวมทั้งหมด 450,000 บาท กลับไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ จึงเชื่อว่านี่อาจเป็นชนวนเหตุของความรุนแรงครั้งนี้
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมบอกว่า ยังได้รับข้อมูลจากทหารสังกัดอื่นอีกหลายคนที่กู้เงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ แต่คนละโครงการ และไม่ใช่เจ้าของคนเดียวกัน เพื่อนำมาสร้างบ้าน และจะต้องได้รับเงินส่วนต่างจากการกู้ แต่ยังไม่ได้รับเงินส่วนนั้นเช่นกัน
มีการตั้งข้อสังเกตว่าการจัดสรรที่ดินแก่ข้าราชการ และข้าราชการทหาร เป็นนโยบายของรัฐที่จะให้ข้าราชการและลูกจ้างมีที่ดินและอาคารเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง แต่เมื่อมีธุรกิจนายหน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับเอกชน และผู้บังคับบัญชาบางรายในค่ายทหารที่มีบทบาทเข้ามาบริหารจัดการ และเกิดเงินส่วนต่างคืนให้กับผู้กู้ นี่จึงอาจเป็นช่องว่างทำให้นายหน้าเข้ามาหาประโยชน์จากเงินส่วนต่างจนเกิดความขัดแย้ง.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►วิสามัญคนร้ายกราดยิงเมืองโคราชแล้ว
►ผู้ว่าฯ โคราช แถลงสรุปเหตุกราดยิง ยอดตายอยู่ที่ 30