ท่องเที่ยวกระเทือนหลังคนไทยปรับพฤติกรรมรับ”โคโรนาไวรัส”


กรุงเทพฯ 8 ก.พ. –ศูนย์วิจัยกสิรไทยสำรวจพบคนไทยปรับพฤติกรรมรับมือ โคโรนาไวรัส คาดท่องเที่ยวกระทบ1.3-1.7หมื่นล้านบาทหลังคนไทยปรับพฤติกรรมรับมือ โคโรนาไวรัส


บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจ “พฤติกรรมของคนไทยกับการปรับตัวท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา และผลต่อภาคธุรกิจต่างๆ” โดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 1,200 คน พบว่า ร้อยละ 66 มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางด้านในช่วงระยะเวลานี้ที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อใด   

ทั้งนี้ ภายใต้กรอบเวลา 1-3 เดือน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คนไทยจะมีภาระค่าใช้จ่ายในการป้องกันและดูแลสุขภาพผ่านการซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ คิดเป็นเม็ดเงินราว 2,200-2,500 ล้านบาท ขณะที่ การปรับพฤติกรรมของประชาชน อาจก่อให้เกิดผลทางลบต่อภาคธุรกิจต่างๆ โดยผลกระทบหลักจะตกอยู่ที่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศผ่านการเลื่อน/ชะลอการเดินทางชั่วคราวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,100-17,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 5.0-6.5 ของรายได้ตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงปกติ (การประเมินนี้ ยังไม่รวมผลจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ)  ขณะที่ผลกระทบต่อรายได้สุทธิในธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารในภาพรวมจากการใช้จ่ายของคนไทยอาจยังอยู่ในกรอบจำกัด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 900-1,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ0.02-0.04 เมื่อเทียบกับช่วงปกติ 


สำหรับ การกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ผู้ตอบแบบสอบถามให้น้ำหนักกับการที่มีวิธีการรักษาโรคหรือวัคซีนป้องกัน มากที่สุด รองลงมาคือ มาตรการป้องกันและสร้างความเชื่อมั่นของภาครัฐ และการไม่พบจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 

       ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ควรจะมีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้นักท่องเที่ยวมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยอาจสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจคงต้องเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีแผนการจัดอบรมสัมมนาในประเทศสอดคล้องไปกับมาตรการด้านภาษีของภาครัฐที่ออกมา –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต