เชียงใหม่ 2 ก.พ.-สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่สุดเงียบเหงา นักท่องเที่ยวจีนหายหมด หลังเชื้อไวรัสโคโรนาระบาดในหลายประเทศ
หลังจากศูนย์บริการข้อมูลผู้เยี่ยมชม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนอีกแห่ง ประกาศปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวานนี้ หนีไวรัสโคโรนา ทำให้วันนี้ ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นไปอย่างเงียบเหงากว่าทุกวันที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นวันหยุด พร้อมทั้งเขียนป้ายข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาจีน บริเวณจุดให้บริการ สถานีรถราง แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งปกติจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาใช้บริการ วันละหลายร้อยคน ซึ่งพนักงานบริเวณศูนย์บริการข้อมูลยังคงมาทำงานตามปกติ และบอกว่าปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด และที่ผ่านมา มีการเขียนป้ายข้อความแขวนไว้ ให้กำลังใจชาวอู่ฮั่นด้วย หลังเกิดโรคระบาดในประเทศจีน นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บางคนบอกว่า ยังรู้สึกหวาดกลัว กับการระบาดของโรค เนื่องจากแต่ละวันที่ต้องออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัย รวมทั้งภายในบริเวณมหาวิทยาลัยเอง ที่ก่อนหน้านี้ มีนักท่องเที่ยวจีน มาท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่วนย่านถนนนิมมานเหมินท์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกจุด ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีน นิยมมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง และรับประทานอาหาร วันนี้พ่อค้าขายอาหารอีสานรถเข็น ริมถนนบอกว่า นักท่องเที่ยวจีนหายไปเยอะมาก ปกติจะเดินตามถนนคึกคัก
ขณะที่ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ในอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ที่เขียนข้อความ ติดหน้าร้าน ไม่รับนักท่องเที่ยวจีนและชาวต่างชาติ ทางตำรวจได้ให้เปลี่ยนข้อความใหม่ ให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยวแล้ว
ส่วนสภาพบรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือข้ามเกาะเสม็ดตลาดบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ สุดเงียบเหงาอย่างหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีบรรดานักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางไปใช้บริการเรือข้ามฝากไปเที่ยวยังเกาะเสม็ดกันอย่างคึกคัก นายยานยนต์ ผู้จัดการท่าเรือนวลทิพย์ บ้านเพ ยอมรับว่า การหายไปของนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองมาก ทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวจีนกว่า 70-80% หายไป จากที่เคยข้ามฟากวันละ 10-20 เที่ยว นักท่องเที่ยวชาวจีนแน่นทุกเที่ยว แต่หลังจากเกิดเหตุเชื้อไวรัสโคโรนาระบาด เรือข้ามฝากแล่นได้วันละไม่ถึง 10 เที่ยว และมีผู้โดยสารนั่งข้ามฟากแบบโหรงเหรง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตั้งตัวไม่ทัน ถึงตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องปรับกลยุทธ์และดิ้นรนกันอย่างหนัก เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลดเที่ยวบินของการบินไทย ในเส้นทางไป-กลับระหว่างไทยและจีนจำนวน 6 เส้นทาง 12 เที่ยวบิน ว่า เป็นการพิจารณาของฝ่ายการพาณิชย์ โดยมีปัจจัยหลัก คือ เรื่องทางธุรกิจเนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีปริมาณผู้โดยสารลดลงอย่างมาก ช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้จำนวนผู้โดยสารเดินทาง ไป-กลับในเส้นทางดังกล่าวลดลง ซึ่งสายการบินอื่นๆ ก็พิจารณายกเลิกเส้นทางบินจากปัจจัยดังกล่าวเช่นเดียวกัน รวมทั้งพิจารณาปัจจัยในเรื่องของความปลอดภัยของทั้งผู้โดยสารที่เดินทางและลูกเรือของการบินไทยในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสปอดอักเสบด้วย
สำหรับเส้นทางบิน ที่มีการลดเที่ยวบินของการบินไทยระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563 ได้แก่ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง จากเดิม 2 เที่ยวบินต่อวัน เหลือ 1 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ 2 เที่ยวบิน เหลือ 1 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-กวางเจาจาก 2 เที่ยวบินเหลือ 1 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เฉิงตู จาก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เหลือ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ กรุงเทพฯ-คุนหมิง จากเดิม 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เหลือ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ กรุงเทพฯ-เซี่ยเหมิน จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เหลือ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 6-27 กุมภาพันธ์ 2563.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• “อนุทิน” เยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา
• สธ.ใช้ยาต้านเอดส์-ไข้หวัด รักษาโคโรนาได้ผลดี
• สธ.เผยผู้ป่วยโคโรนา รักษาหายแล้วอีก 1 คน
• แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สถานการณ์ไวรัสโคโรนา
• สธ.พร้อมส่งทีมแพทย์รับคนไทยในอู่ฮั่น 4 ก.พ.นี้
