ชิซุโอะกะ 30 ม.ค. – สถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD) หารือคณะผู้บริหารจังหวัดชิซุโอะกะ และ JPHRI ประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าขับเคลื่อนความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน สร้างเศรษฐกิจชุมชน ด้วย Wellness Tourism และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (Institute of Business Economics Research and development : IBERD) ร่วมให้การต้อนรับและเลี้ยงรับรองคณะผู้แทนจากสภาจังหวัดและเจ้าหน้าที่รัฐบาลจังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมพบปะหารือแนวทางความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOC) ระหว่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD) กับสถาบันสุขภาพและวิจัยของประเทศญี่ปุ่น (Japan Health and Research Institute : JPHRI) ในการส่งเสริมการเชื่อมโยงความร่วมมือด้านสุขภาพ (Health and wellness) กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และเรียนรู้ประสบการณ์การดำเนินงานด้านการพัฒนาโครงการน้ำพุร้อน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายสถิตย์ กล่าวว่า การเดินทางมาประเทศไทยของคณะจังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น นำโดย JPHRI ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เป็นความมุ่งมั่นจริงจังในการที่จะขับเคลื่อนงานการสร้างเครือข่าย การแสวงหาความร่วมมือด้านต่างๆ การพัฒนาการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน และเศรษฐกิจเวลเนส อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีขอบเขตความร่วมมือที่มุ่งเน้นประโยชน์จากการศึกษาแลกเปลี่ยนงานวิจัย งานวิชาการ แนวทางส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำพุร้อนสาธารณะ (Public Bath) เป็นลำดับแรก เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้สร้างเศรษฐกิจของชุมชนในแหล่งน้ำพุร้อนของไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก (Wellness Tourism)
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารและคณะเจ้าหน้าที่จากสถาบัน IBERD นำโดยนางนที ชวนสนิท รองประธานกรรมการสถาบัน IBERD พร้อมด้วยผู้แทนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ประชุมหารือกับนายอัสสึยูกิ ราชิ ประธานสมาคมรัฐสภาด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีด้วยการอาบน้ำร้อนญี่ปุ่น ร่วมกับคณะผู้บริหารภาคราชการ จังหวัดชิซุโอะกะ นำโดยนายโยชิกาซู ทากาฮาชิ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการวิจัยและพัฒนา กรมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมถึง ดร.ยาซูอากิ โกโต นักวิจัยของสถาบันสุขภาพและวิจัยของประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนงานการสร้างเครือข่าย และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ น้ำพุร้อน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจเวลเนส ในการเชื่อมโยงความร่วมมืองานวิจัยนวัตกรรมด้านสุขภาพ (Health and wellness) ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ตามโครงการนำร่องและแผนงานในปี 2568-69 ให้เป็นรูปธรรม
นางนที ชวนสนิท รองประธานกรรมการสถาบัน IBERD เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น นี้ ได้ริเริ่มโครงการนำร่องความร่วมมือที่สำคัญใน 2 โครงการ คือ การส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำพุร้อนสาธารณะ (Public Bath) และการสร้างสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) โดยกำหนดเส้นทางน้ำพุร้อนธรรมชาติของไทย 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1. เส้นทางอันดามัน (ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง และสตูล) 2. เส้นทางสงกรานต์ (เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน) และ 3. เส้นทางประวัติศาสตร์ (เพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี) จับคู่กับจังหวัดของญี่ปุ่น อาทิ Shizuoka Prefecture, Beppu City in Oita Prefecture และ Gumma Prefecture ตามลำดับ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพ (Health & Wellness Industry) ต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ รองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2573 เป็นการสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีตามมาตรฐานสากล และการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทั้งของประเทศญี่ปุ่น และไทย.-111-สำนักข่าวไทย