กกต. 30 ม.ค.-กกต.ยกคำร้อง “นิพิฏฐ์” กล่าวหา “ฉลอง” ทุจริตซื้อเสียง ระบุมีแค่ภาพแอพพลิเคชั่นไลน์ เก็บบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีสิทธิ์ ไม่มีหลักฐานอื่นสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ม.ค.) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ยกคำร้องกรณีนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.เขต 2 พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ถูกนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหากระทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 วรรค 1 (1) และมาตรา 78
คำวินิจฉัยระบุว่า จากการไต่สวนและพยานหลักฐานต่าง ๆ เห็นว่ากรณีอ้างว่าก่อนมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. มีกลุ่มบุคคลเก็บรวบรวมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยมีข้อตกลงว่าให้เลือกพรรคภูมิใจไทย แล้วจะได้ค่าตอบแทนรายละ 500 บาท ซึ่งที่ผู้ร้องอ้างมีเพียงภาพถ่ายแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่ปรากฏภาพสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาสนับสนุน และจากการให้ถ้อยคำของพยานได้ยินยอมให้มีการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน มีพยานเพียงรายเดียวให้ถ้อยคำว่ามีการให้เงินถ้อยคำของพยานคนดังกล่าวขัดแย้งกับถ้อยคำของบุคคลในครอบครัวของพยานเอง จึงมีน้ำหนักน้อย ประกอบกับพยาน ซึ่งเป็นผู้ถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนต่างให้ถ้อยคำว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย โดยไม่ได้มีการให้เงินหรือสัญญาว่าจะให้แต่อย่างใด จึงยังฟังไม่ได้ว่านายฉลอง กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย
ส่วนที่อ้างว่าก่อนมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีนายกเทศมนตรีบางคนให้ประชาชนถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน โดยมีภาพถ่ายแอพพลิเคชั่นไลน์ข้อความทำนอง “วันนี้พวกเราร่วมด้วยช่วยกันได้ใกล้ 25,000 คะแนนแล้ว ขอให้ใช้เวลาที่มีขณะนี้หาเพิ่มให้ได้ 30,000 คะแนน ฝากธนาคารไว้เลยหรือรดน้ำใส่ปุ๋ยต่อเนื่อง ส่วนคะแนนอีก 15,000 คะแนน จะเป็นเสียงที่ลอยมาโดยใช้ธรรมชาติเมื่อใกล้ ๆ วันเลือกตั้งแล้วพวกผม ผู้รับหน้าที่ทางการเมืองครั้งนี้จะจัดการปูทางให้สะดวกครับ” แต่ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาสนับสนุนว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการอย่างไร และผู้ร้องอ้างว่ากำนันสารวัตรกำนันบางคนให้ผู้ใหญ่บ้านถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ก็ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดมาสนับสนุน
จากการไต่สวนนายก อบต.กำนัน สารวัตรกำนันคนดังกล่าวต่างให้ถ้อยคำปฏิเสธ ไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปขอถ่ายภาพบัตร ประจำตัวประชาชนแต่อย่างใด และไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่ามีการใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดเพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด พยานหลักฐานจึงยังฟังไม่ได้ว่านายฉลองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามคำร้อง.-สำนักข่าวไทย