จีน 26 ม.ค.-จีนประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุดใน 30 มณฑล เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เพราะโรงพยาบาลในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน พบว่าการใช้ยาต้านไวรัสเอดส์ สามารถรับมือกับไวรัสพันธุ์ใหม่ได้
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีต้นกำเนิดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ของจีน มีแนวโน้มเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้รัฐบาลจีน ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุดใน 30 มลฑล จากทั้งหมด 34 มลฑล เขตปกครองตนเอง เทศบาลนคร และเขตปกครองพิเศษ เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสพันธุ์ใหม่ ขณะที่เขตปกครองตนเองทิเบต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ สำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของจีน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ โดยระดับ 1 จะเป็นระดับที่สูงที่สุด ส่วนระดับ 4 เป็นระดับที่ต่ำที่สุด
นอกจากนี้ จีนยังเร่งสร้างโรงพยาบาลพิเศษแห่งใหม่ในเมืองอู่ฮั่น เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ และในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วัน จีนประกาศจะสร้างโรงพยาบาลพิเศษเพื่อรับมือกับไวรัสพันธุ์ใหม่ไปแล้วถึง 2 แห่ง ขนาด 1,000 เตียง และ 1,300 เตียง โดยมั่นใจจะสร้างเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 15 วัน ด้านทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกองทัพจีน เริ่มทยอยเดินทางไปยังมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองอู่ฮั่น จุดที่พบไวรัสพันธุ์ใหม่แห่งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ จีนยังระดมแพทย์กว่า 1,600 คน ไปเสริมทัพทีมแพทย์ในเมืองอู่ฮั่นอีกด้วย สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่นเข้าขั้นวิกฤติ อย่างที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนกล่าว และต้องประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงพรรคคอมมิวนิสต์จีนไปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของจีน
ขณะเดียวกัน บริษัทตเวชภัณฑ์ทั่วประเทศจีน ก็ทำงานกันอย่างหนักเพื่อเร่งผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จะใช้รับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 นักวิทยาศาตร์จากศูนย์เอ็มอาร์ซีเพื่อการวิเคราะห์โรคติดเชื้อทั่วโลกของอังกฤษ ระบุว่าเป็นไปได้ยากมากที่จีนจะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่ก็ชื่นชมความพยายามของทางการจีน พร้อมกับแนะนำว่า ถ้าลดการแพร่เชื้อลงได้ถึงร้อยละ 60 ก็จะสามารถหยุดยั้งและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ได้
ส่วนทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ของอังกฤษ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในปีนีถึง 11,000 คน และหากเป็นไปตามคาด จะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากกว่าผู้ติดเชื้อโรคซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ระบาดเมื่อปี 2546 ดังนั้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รัฐบาลจีนจึงร้องขอไปทางบริษัทนำเที่ยวจีนให้ยกเลิกนำลูกทัวร์เดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้ ซึ่งทางบริษัททัวร์จีนก็ยอมปฏิบัติตามและจะเริ่มยกเลิกกรุ๊ปทัวร์จากจีนไปต่างประเทศตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป สำหรับประเทศต่างๆในเอเชีย ที่พบผู้ติดเชื้อแล้วมีทั้งหมด 10 ประเทศและดินแดน ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และ เนปาล นอกจากนี้ ยังพบในสหรัฐ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และ แคนาดา รวมทั้งหมดพบผู้ติดเชื้อ 41 ราย ใน 14 ประเทศและดินแดนทั่วโลก การระบาดที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐ ฝรั่งเศส และรัสเซีย พยายามจะอพยพพลเรือนของตัวเอง ออกจากเมืองอู่ฮั่น ส่วนธุรกิจของชาติตะวันตก อย่างแม็คโดนัลด์ หรือ สตาร์บัคส์ ต่างสั่งปิดกิจการชั่วคราวทั้งสาขาในเมืองอู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียง
ล่าสุดคณะกรรมาธิการสาธารณสุขจีน ประกาศว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 56 รายแล้ว ยืนยันการติดเชื้อ 1,975 คน และต้องสงสัยติดเชื้ออีก 2,684 คน นอกจากนี้ทางการจีนยังติดตามสังเกตอาการ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออีกกว่า 23,431 คน ท่ามกลางความวิกฤติ ยังพอมีเค้าลางทีดีอยู่บ้าง เมื่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน พบว่าการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีเอดส์ กับผู้ป่วยปอดอักเสบที่มีต้นตอจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีประสิทธิภาพในการรักษา โดยจากการทดลองใช้ยากับผู้ป่วย 40 คน ที่ติดเชื้อ พบว่าส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น นอกจากนี้การแยกผู้ป่วยให้อยู่ในห้องที่มีระบบอากาศพิเศษ ที่มีความดันภายในห้องต่ำ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นด้วย ขณะเดียวกันศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน ก็เริ่มพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่แล้ว นอกจากนี้ ยังคัดกรองยาชนิดต่างๆ ที่จะสามารถรักษาโรคปอดอักเสบที่มีไวรัสพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุ
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ อย่างพระราชวังต้องห้าม, บางส่วนของกำแพงเมืองจีน และเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์,ดิสนีย์ทาวน์, วอลต์ ดิสนีย์ แกรนด์ เธียร์เตอร์ และวิชชิง สตาร์ พาร์ก ปิดไม่ให้เที่ยวชมชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง.-สำนักข่าวไทย