นนทบุรี 22 ม.ค. – พาณิชย์เร่งยกระดับเอสเอ็มอีภูมิภาค บุกตลาด CLMV นำร่องอีสาน-ตะวันออก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมบูรณาการเพื่อยกระดับเอสเอ็มอีภูมิภาคบุกตลาด CLMV ร่วมกับตัวแทนหอการค้าจังหวัด กลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอป กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรนวัตกรรม หรืออะ-พิ (API) ของกรมการค้าต่างประเทศ และกลุ่มเครือข่ายของผู้ประกอบธุรกิจ หรือ Biz Club ที่มีอยู่ทั่วประเทศในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ทั้งนี้ ได้ข้อสรุป 9 มาตรการให้ภาคธุรกิจท้องถิ่นมีส่วนช่วยผลักดันการส่งออก ได้แก่ การปลดล็อคอุปสรรคทางการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดน โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การออกโรดโชว์ในกลุ่มประเทศ CLMV เน้นเมืองรองนอกเหนือจากเมืองหลวง การเพิ่มกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เร่งรัดการเจรจากับจีนในการอำนวยความสะดวกส่งสินค้า โดยเฉพาะผลไม้ผ่านแดนจากไทย ผ่านเวียดนาม และ สปป.ลาว ก่อนเข้าสู่จีน การจัดคาราวานส่งออกตามแนวชายแดนสำคัญ ๆ พิจารณาแนวทางการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามแนวชานแดน โดยมีหลักการให้เอกชนลงทุนเอง การนำเสนอสินค้าไทย เชื่อมระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์ thaitread.com (ไทยเทรด ดอทคอม) ของไทย กับแพลตฟอร์มรายใหญ่ของ CLMV ขอความร่วมมือการท่าอากาศยานในการส่งเสริมการซื้อสินค้าโอทอปปริมาณมาก โดยไม่ต้องหิ้วกลับประเทศเอง แต่มีบริการสั่งจัดส่งตามทีหลังได้ และเดินหน้าสร้างผู้ส่งออกรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพทั้งการผลิตและส่งออกครบวงจรในการบุกตลาด CLMV
อย่างไรก็ตาม มีเป้าหมายให้ธุรกิจในท้องถิ่นช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกของประเทศปี 2563 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ หลังจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกดีขึ้น สถานการณ์สงครามการค้ามีแนวโน้มผ่อนคลาย และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะส่งผลดีกับการส่งออกของประเทศ ประกอบกับ นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ที่มีการเร่งรัดขยายตลาดการส่งออกที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดจะสามารถเพิ่มโอกาสทำตลาดดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะขยายตัวได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการประมาณตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยังมีความแตกต่าง แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ การส่งออกปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวเป็นบวก.-สำนักข่าวไทย