พรรคประชาธิปัตย์ 10 มิ.ย.- พรรคประชาธิปัตย์ ล่ารายชื่อ กก.บห. หวังได้เกินครึ่ง เปลี่ยนหัวหน้าพรรค หลังสะดุดไปจากพิษโควิด-19 ชี้ ส.ส.อึดอัด จุดยืน”จุรินทร์” นำปชป.ไม่ต่างจากพรรครอเสียบ อ้างมารยาทร่วมรัฐบาลจนเสียจุดยืนทางการเมือง ด้าน “อัลวาร์” รับ กระแสข่าวล่ารายชื่อกก.บห.มีจริง แต่ยังไม่ได้รับการทาบทาม ย้ำข้อเรียกร้องเดิมเร่งจัดประชุมใหญ่ ระดมสมอง แก้วิกฤตเลือดไหลไม่หยุด พรรคตกต่ำ ลั่น ไม่คิดล้มใคร แค่ต้องการเห็นพรรคคืนสู่อุดมการณ์ ยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง พร้อมไขก๊อก เปิดทางกก.บห.ชุดใหม่ หากแก้ปัญหาได้
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า ขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อกรรมการบริหารพรรคให้ได้เกินครึ่งเพื่อยื่นใบลาออก บีบให้มีการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ นายอัลวาร์ สาและ รองเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส. 9 คน ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้เปิดประชุมวิสามัญ ระดมสมองแก้ปัญหาภายในพรรค กรณีส.ส.และสมาชิกของพรรคทยอยลาออก ตามมาด้วยการลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกของนายอภิชัย เตชะอุบล และมีการเตรียมจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
แต่ทุกอย่างหยุดชะงักไปจากพิษโควิด-19 กระทั่งเริ่มมีความเคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อกรรมการบริหารพรรคลาออกเกินครึ่ง จากจำนวนกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 39 คนในช่วงเวลานี้ เนื่องจากผู้บริหารพรรคปัจจุบันไม่มีทีท่าจะจัดประชุมใหญ่ ทั้งๆ ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว ซึ่งตามข้อบังคับพรรคหากมีกรรมการบริหารพรรคเกินกึ่งหนึ่งลาออก จะทำให้กรรมการบริหารพรรคพ้นตำแหน่งทั้งคณะ และต้องดำเนินการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วันนับแต่วันพ้นตำแหน่ง
แหล่งข่าวระบุถึงสาเหตุที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์นั้น เกิดจากการบริหารของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เป็นลักษณะรวมศูนย์ ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับส.ส. สนใจแต่งานในกระทรวงของตัวเอง อีกทั้งยังไม่มีการแสดงจุดยืนทางการเมืองที่จำเป็น แต่กลับวางบทบาทพรรคในสถานะเหมือนเป็นลูกไล่ที่ต้องปฏิบัติตามพรรคพลังประชารัฐ บนข้ออ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำต้องมีมารยาททางการเมืองในการร่วมรัฐบาล จนส.ส.หลายคนรู้สึกอึดอัด และกังวลต่ออนาคตพรรคว่าจะตกต่ำลง จากการนำพาพรรคที่กำลังแปรสภาพกลายเป็นพรรครอเสียบ รอร่วมรัฐบาลแบบไร้ข้อแม้ ไม่ต่างจากพรรคตัวแปรอื่น ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้พรรคเสียแนวทางและอุดมการณ์ทางการเมืองที่เป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น
นายอัลวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ได้ยินเรื่องดังกล่าวเหมือนกัน แต่ยังไม่มีใครมาทาบทามให้ร่วมลงชื่อลาออกจากการเป็นรองเลขาธิการพรรค ซึ่งส่วนตัวต้องการให้มีการปรับปรุงพรรคไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ได้ต้องการโค่นล้มใคร ยังยืนยันตามเนื้อหาในจดหมายที่เคยยื่นต่อหัวหน้าพรรคไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ต้องการให้มีการประชุมใหญ่โดยเร็วที่สุด เพื่อระดมสมองแก้ปัญหาภายในพรรคที่สูญเสียบุคลากรของพรรคไปอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นรองเลขาธิการพรรค ตนไม่ได้ต้องการมีตำแหน่งนี้เพียงเพื่อมาพิมพ์ในนามบัตร แต่เห็นว่าตำแหน่งบริหารมาพร้อมความรับผิดชอบที่ต้องขับเคลื่อนพรรคไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อเห็นอะไรเป็นปัญหาต้องร่วมกันแก้ไข
“สิ่งที่เราต้องกลับมาพิจารณาคือสมาชิกที่ลาออกไปล้มเหลวที่จะอยู่กับพรรค หรือว่าการบริหารพรรคล้มเหลว สมาชิกไม่เห็นอนาคตจึงลาออกไป การประชุมใหญ่จะทำให้เราได้ระดมสมองร่วมกัน ซึ่งผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องยืนเคียงข้างประชาชน ตามอุดมการณ์ของผู้ก่อตั้งพรรค อะไรทำให้พรรคตกต่ำลง เราต้องหาคำตอบให้ได้เพื่อแก้วิกฤตพรรค และแสดงความรับผิดชอบร่วมกัน โดยในจดหมายที่ผมยื่นต่อหัวหน้าพรรคได้แสดงเจตจำนงไว้ด้วยว่าหากแนวทางแก้ไขวิกฤตพรรคประชาธิปัตย์ต้องมีการเสียสละเพื่อให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เข้ามาสร้างศรัทธาให้กับสังคม ผมก็ยินดี เพราะไม่ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่เคยคิดโค่นล้มใคร แต่ต้องการเห็นพรรคยืนหยัดได้อย่างแข็งแรงอีกครั้ง”นายอัลวาร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย