สหรัฐ-จีนลงนามข้อตกลงทำการค้าโลกดีขึ้น

นนทบุรี 17 ม.ค. – พาณิชย์เชื่อสหรัฐและจีนลงนามข้อตกลงการค้าระยะแรก ทำให้การค้าโลกกลับมาดีขึ้น


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงการลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่างสหรัฐและจีน ว่า ความตกลงฉบับนี้ครอบคลุมประเด็นเศรษฐกิจการค้าสำคัญ 7 ด้าน ได้แก่ ทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายโอนเทคโนโลยีการขยายการค้า การค้าสินค้าเกษตรและอาหาร บริการทางการเงิน นโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคและอัตราแลกเปลี่ยน ตลอดจนการดำเนินการระงับข้อพิพาท

ทั้งนี้ สาระสำคัญของข้อตกลงฯ ด้านการขยายการค้าและการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร จีนจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลา 2 ปี (1 ม.ค.63 –31 ธ.ค.64) ประกอบด้วย สินค้าอุตสาหกรรม มูลค่า 77,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า ยานพาหนะ เหล็ก สินค้าเกษตร มูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ฯ เช่น เมล็ดพืชน้ำมัน เนื้อวัว หมู ไก่ อาหารทะเล อาหารสัตว์ สินค้าพลังงาน มูลค่า 52,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ตลอดจนบริการ มูลค่า 37,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น การท่องเที่ยว การประกันภัย และหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ข้อตกลงฯ ยังระบุถึงความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคการค้าและสนับสนุนการขยายตัวของสินค้าสหรัฐฯ เช่น ผลิตภัณฑ์นม อาหารทารก สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ สินค้าประมง ข้าว อาหารสัตว์ พืชสวน และผลิตภัณฑ์เกษตรชีวภาพ อีกด้วย


สำหรับประเด็นสำคัญอื่นของข้อตกลงนั้น จีนจะเพิ่มระดับการคุ้มครองและบังคับใช้กฎหมายต่อการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจีนต้องเสนอร่างแผนการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาภายใน 30 วัน อีกทั้งจีนจะเปิดตลาดบริการทางการเงิน เช่น บริการธนาคาร การประกันภัย การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับสหรัฐมากขึ้น นอกจากนี้ 2 ฝ่ายตกลงที่จะละเว้นการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเข้าครอบครองเทคโนโลยีของต่างชาติและจะละเว้นการดำเนินนโยบายค่าเงินที่สร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการตามข้อตกลงและการระงับข้อพิพาทนั้น 2 ฝ่ายจะจัดตั้งคณะทำงานด้านกรอบการค้าเป็นเวทีของผู้แทนระดับสูงเพื่อหารือการดำเนินการตามข้อตกลงฯ รวมทั้งจะจัดตั้งสำนักงานประเมินและระงับข้อพิพาท เพื่อหารือ ติดตาม และประเมินการดำเนินการตามข้อตกลงฯ ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคกำหนดกรอบเวลาและขั้นตอนการระงับข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจการค้าระยะแรกระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ และจีน นับเป็นข่าวดีต่อประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัญญาณบวกชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความสัมพันธ์ระหว่าง2 ประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562  สหรัฐปรับลดภาษีสินค้าสหรัฐ  120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลืออัตรา 7.5% (จากเดิม 15%) และชะลอการเก็บภาษีสหรัฐเพิ่มเติม ตลอดจนเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 สหรัฐปรับสถานะประเทศจีนด้านค่าเงินให้ดีขึ้น โดยยกเลิกการขึ้นบัญชีดำจีนในฐานะประเทศบิดเบือนค่าเงิน เหลือแค่การอยู่ในกลุ่มประเทศที่เฝ้าจับตา (watch list) ซึ่งสัญญาณบวกเหล่านี้เมื่อประกอบกันแล้วจะช่วยลดแรงกดดันและสร้างบรรยากาศการค้าโลกดีขึ้น และเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักธุรกิจนักลงทุน 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะสหรัฐน่าจะได้อานิสงส์จากสถานการณ์ดังกล่าว และเมื่อเสริมกับพื้นฐานสินค้าและตลาดส่งออกของไทยที่ดีและมีความหลากหลาย จะเป็นแรงเสริมให้กับการค้าและการส่งออกของไทยโดยภาพรวม นอกจากนี้ ข้อตกลงระยะแรกไม่ได้ระบุเงื่อนไขให้จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ ไทยจึงควรเร่งใช้โอกาสในการทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ต่อไป โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยสามารถทดแทนสินค้าสหรัฐในตลาดจีนได้ดี เช่น อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง


นอกจากนี้ ในประเด็นที่บางส่วนมีความกังวลว่าสินค้าบางกลุ่มอาจเผชิญการแข่งขันสูงขึ้นในตลาดจีนนั้น สนค. ตั้งข้อสังเกตว่า สินค้าภายใต้ข้อตกลงที่จีนต้องซื้อเพิ่มจากสหรัฐหลายรายการ สอดคล้องกับความต้องการของจีนและยังมีช่องว่างสำหรับสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ฝ้าย อาหารทะเล ยาและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ และถ่านหิน ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และส่วนประกอบ อาจเผชิญการแข่งขันมากกว่ากลุ่มข้างต้นจากปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี และการพัฒนา/ควบคุมมาตรการการผลิต ซึ่งแม้ว่าโดยส่วนใหญ่สินค้าไทยยังมีความได้เปรียบสินค้าประเทศอื่นในตลาดจีน สะท้อนจากดัชนี Revealed Comparative Advantage (RCA) แต่ก็ไม่ควรละเลยการรักษาตลาดและเร่งปรับตัวให้ทันกับปัจจัยรอบด้านที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ 

ทั้งนี้ สนค. จะศึกษารายละเอียดสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ เพื่อประเมินผลกระทบและชี้ช่องโอกาสการส่งออกเพิ่มเติม ให้สอดรับนโยบายและมาตรการเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ในการรุกตลาดเดิม ขยายตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่า รวมทั้งการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ และเดินหน้าขยาย FTA กับคู่ค้าศักยภาพ รวมทั้งจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการดำเนินการตามข้อตกลงระยะแรก และการหารือประเด็นสำคัญเชิงโครงสร้างอื่น ๆ ที่จะอยู่ในข้อตกลงระยะถัดไป เช่น การอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ การคุกคามทางไซเบอร์ การเลือกปฏิบัติต่อการค้าดิจิทัล ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความท้าทาย และอาจถูกใช้ในการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน