แพร่ 10 ม.ค. – หลายหมู่บ้านเริ่มเผชิญกับความแห้งแล้งขาดแคลนทั้งน้ำกินน้ำใช้และเพาะปลูก แต่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ.แพร่ ซึ่งเคยแล้งซ้ำซากมานับสิบปี ถึงขนาดแย่งน้ำกัน หลังจากฟื้นฟูป่าและจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ จนกลายเป็นต้นแบบของหมู่บ้านสู้แล้ง และมั่นใจว่าจะผ่านวิกฤติความแห้งแล้งในปีนี้ไปได้
น้ำในอ่างเก็บน้ำหมู่บ้านแม่ขมิง ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ แม้จะลดลงในช่วงหน้าแล้ง แต่ไม่มากนักหากเทียบกับอ่างเก็บน้ำที่อื่น เพราะยังมีน้ำจากป่าบนดอยรอบหมู่บ้านไหลมาเติมเรื่อยๆ จากความร่วมมือชาวบ้านที่ช่วยกันฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ขึ้น หลังจากที่นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่เคยถูกน้ำป่าดินโคลนถล่มวังชิ้นเมื่อปี 2544 ป่าถูกทำลาย ทางน้ำในลำห้วยเปลี่ยนไป ชาวบ้านใน 3 หมู่บ้านเผชิญแล้งซ้ำซากถึงขนาดเปิดศึกแย่งชิงน้ำกันมาแล้ว
จนทางการมาขุดอ่างเก็บน้ำความจุ 800,000 ลูกบาศก์เมตร แห่งนี้ขึ้น และชาวบ้านหันมาช่วยกันสร้างฝายชะลอน้ำบนดอยรอบหมู่บ้าน และฟื้นฟูป่าอย่างจริงจัง พร้อมๆ กับความรู้จากโรงเรียนจัดการน้ำ อบจ.แพร่ และความช่วยเหลือจากรัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน จนชาวบ้านสามารถคำนวณความต้องการใช้น้ำ ปริมาณน้ำไหลเข้าและน้ำต้นทุน
เฉพาะบ้านแม่ขมิง 800 คน วันหนึ่งใช้น้ำคนละ 100 ลิตร หรือทั้งหมู่บ้านใช้วันละ 80 ลูกบาศก์เมตร สูบน้ำไว้ในถังกักเก็บ และปล่อยผ่านท่อน้ำไปตามบ้าน รวมทั้งต่อท่อน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรและเลี้ยงสัตว์แทนคลองชลประทานลดการสูญเสียน้ำ โดยปล่อยน้ำจากพื้นที่สูงลงต่ำเพื่อใช้น้ำได้คุ้มค่าที่สุด
บ้านแม่ขมิง จึงเป็นหนึ่งในหมู่บ้านต้นแบบสู้แล้ง จากการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ใช้น้ำได้อย่างคุ้มค่า ลดการขาดแคลนน้ำ สร้างรายได้ และช่วยให้ลดผลกระทบวิกฤติภัยแล้งปีนี้ไปได้. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► ภัยแล้งรุนแรง อ.วังชิ้น จ.แพร่ หวั่นศึกชิงน้ำ