ทำเนียบฯ 10 ม.ค.- โฆษกรัฐบาลย้ำแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วนและระยะยาว ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมฝุ่น หวั่นกระทบกับสุขภาพเยาวชนร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองใน กทม. และปริมณฑลมีค่าเกินมาตรฐาน ในช่วงต้นสัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตาม ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม เร่งแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และข้อควรปฏิบัติ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยคุณภาพดีที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ พร้อมทั้งให้สังเกตอาการทางสุขภาพเบื้องต้น หากผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในช่วง “วันเด็กแห่งชาติในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563” ที่อาจมีผลกระทบต่อเยาวชนที่จะมาร่วมงานวันเด็ก เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในวันดังกล่าว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยศูนย์ประสานงานและแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควัน (ศปฝ.คพ.) ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ “แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” โดยได้ประสานให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการในการควบคุมฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดมลพิษ ในวันที่ 10 มกราคม และ 11 มกราคม 2563 ประกอบด้วย 1.บก.จร. สตช.ดำเนินการยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบ/ตรวจวัดควันดำ โดยตั้งจุดตรวจให้เต็มกำลัง (โดยปกติจะดำเนินการเมื่อค่าฝุ่น เกินมาตรฐานเป็นสีแดง) โดยตั้งชุดปฏิบัติการฯ ตรวจวัดควันดำ ทั้งหมด 17 ชุด ในวันที่ 10 มรกาคม 2563 และกำชับให้ สน. 3 แห่ง ได้แก่ สน.ตลิ่งชัน , สน.ธรรมศาลา และ สน.คู่ขนานลอยฟ้า เข้มงวดการห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพฯ ตามช่วงเวลาที่กำหนด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า 2.กรุงเทพฯ ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตเข้มงวดไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง /ดำเนินการควบคุมและลดฝุ่น จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการก่อสร้างประเภทอื่น ๆ 3.กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการให้ชุดตรวจการทั้ง 16 ชุด (ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรการขั้นสูงสุด) เข้มงวด ตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร แจ้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไม่มีการนำรถบรรทุกสินค้าทุกประเภท (ยกเว้นสินค้าที่จำเป็น เช่น ของสด) เข้ามาในเขตชั้นในของพื้นที่กรุงเทฯ 4.กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการควบคุมการระบายมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด แจ้งกับโรงงานอุตสาหกรรมในการลดกำลังการผลิตในช่วงสถานการณ์ฝุ่นละอองสูง 5.จังหวัดปริมณฑล 5 จังหวัด ดำเนินการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษทุกประเภท ทั้งยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่ง การก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ได้เร่งปฏิบัติการลดปริมาณฝุ่นในอากาศ ทั้งมาตรการระยะเร่งด่วน และระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ละเลยเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย