นครนายก 25 ธ.ค- ธ.ก.ส.
หนุนทายาทเกษตรกร ตั้งเป้าหมายปั้นสู่สมาร์ทฟาร์เมอร์ 300,000 รายในปี 2565 แปรรูปวัตถุดิบภาคเกษตร ยกระดับชุมชน
สร้างรายได้เข้าท้องถิ่น
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง)
กล่าวในงานเสวนา “Value Chain ข้าวอินทรีย์และนวัตกรรมจากข้าว” ว่า สินค้าเกษตรของไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น
การพลิกคันนาธรรมดาให้เป็นคันนาทองคำด้วยการปลูกไม้มีค่าเพิ่มเติมในพื้นที่ทำนา
การปลูกข้าวอินทรีย์ บรรจุถุงโดยตรงจากเกษตรกร จัดแพ็กเกจสวยงาม
สร้างรายได้ให้เครือข่ายเกษตรกรที่รวมกลุ่มเพิ่มสูงขึ้น การใช้นวัตกรรม
บางอย่างใช้แป้งผัดหน้าจากเมล็ดข้าว
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)กล่าวว่า
รัฐบาลพร้อมส่งเสริมเกษตรกรหลายโครงการ หวังให้เป็นแกนนำช่วยดูแลภาคเกษตรในพื้นที่ ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรลงทะเบียนกลุ่มเกษตรนับแสนกลุ่ม
จึงต้องการผลักดัน ปั้นไปสู่สมาร์ทฟาร์เมอร์
หวังสร้างกลุ่มเกษตรกร 300,000 ราย ภายในปี 2565 หรือสร้างให้ได้ปีละ 100,000
ราย การสร้างเครือข่ายเกษตรกรและการต่อยอดนำสินค้าเกษตรในท้องถิ่น
ทั้งแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
จะช่วยสร้างความอบอุ่นในครอบครัวของชุมชน
น.ส.สุรีรัตน์ สิงห์รักษ์ ทายาทเกษตรกร อ.นาแห้ว จ.เลย ผู้ปลูกแม็คคาเดเมีย กาแฟ
ขยายสมาชิก ร่วมกันปลูกพืชเศรษฐกิจในเครือข่ายนับพันคน ให้ข้อมูลว่า
โครงการภาครัฐมีจำนวนมากเข้ามาช่วยพัฒนาชุมชน ทั้งพลังงานชุมชน สมาร์ทฟาร์มเมอร์
การปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ การแลกเปลี่ยนผ่านหลายเวที การนำคนรุ่นใหม่มาทำเกษตร
จะเปลี่ยนได้อีกหลายแนวทางจากแนวคิดที่สะสมประสบการณ์มาใช้
เพื่อผลิตสินค้าออกสู่ชนบท และอยากให้หน่วยงานภาครัฐเติมเต็มความรู้
เพื่อร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ
น.ส.จารุวรรณ คำเมือง เจ้าของธุรกิจกระดาษฟางข้าว บอกว่า อยากกลับมาทำเกษตร
แต่ไม่รู้จะทำอะไรจากการปลูกข้าวของครอบครัว จึงคิดค้นนำฟางข้าว
มาผลิตเป็นกล่องกระดาษ ออกแบบผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ เติมความรู้จากการแนะนำของลูกค้า
จึงต่อยอดการผลิตกระดาษฟางข้าว จนสามารถส่งออกไปต่างประเทศ พยายามต่อสู้ดิ้นรนจนสามารถสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ
จนทำให้มียอดออร์เดอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เตรียมขึ้นรูปผลิตภัณฑ์จากเศษวัสดุในท้องถิ่น
ขณะนี้หลายประเทศติดต่อการร่วมผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง
-สำนักข่าวไทย