รัฐสภา 19 ธ.ค.-“หมอระวี” จี้ “ศักดิ์สยาม” จัดประชุมร่วมถก จะสร้างเทอร์มินอล 2 แบบใด หากไม่ฟังเสียงค้าน หวั่นจะถูกครหาว่าเอื้อประโยชน์นายทุนพวกพ้อง
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีการสร้างเทอร์มินอล 2 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า จากการที่องค์กรวิชาชีพ กว่า 10 องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเทอร์มินอล 2 เคยออกมาคัดค้านการสร้างเทอร์มินอล 2 แบบตัดแปะ และขอให้ดำเนินการสร้างตามแผนแม่บท หรือ master plan เดิม โดยระบุถึงเหตุผลหลัก ๆ หลายเรื่อง แต่หลังจากนั้น นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แสดงท่าทีว่าจะยังสร้างเทอร์มินัล 2 แบบตัดแปะ และไม่ยอมเปิดให้มีการจัดประชุมร่วมระหว่างสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ที่คัดค้าน ซึ่งได้มีการขอให้มีการประชุมร่วมกับทาง ทอท. เพื่อจะได้วิเคราะห์ถึงข้อดีและข้อเสียของการสร้างเทอร์มินอลทั้ง 2 รูปแบบนำมาเปรียบเทียบกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ
นพ.ระวี กล่าวอีกว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้จัดเสวนาในประเด็นนี้ โดยมี นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม.เข้าร่วม โดยเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ นายนิตินัย กลับออกมาพูดในลักษณะข่มขู่ว่าหากพูดไม่ดีจะถูกดำเนินคดี สิ่งที่เกิดขึ้น ทางพรรคพลังธรรมใหม่มีความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการลงทุนมหาศาล เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งสนามบินสุวรรณภูมิถือเป็นจุดสำคัญที่สุดในการทำรายได้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย ถ้าสร้างไม่ดี โอกาสที่สนามบินสุวรรณภูมิจะติดอันดับสนามบินต้น ๆ เป็นไปได้ยากมาก จึงขอเรียกร้องให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ โดยจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง ทอท. , เจ้าหน้าที่กระทรวงที่เกี่ยวข้อง และสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ที่ออกมาคัดค้าน ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง จนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าควรจะสร้างเทอร์มินอล 2 ตามแผนแม่บท หรือแบบตัดแปะ โดยจะได้มีคำตอบที่ชัดเจนชัดเจนร่วมกัน
“ผมมีความเห็นว่าหากรัฐมนตรีศักดิ์สยาม ไม่ดำเนินการในรูปแบบนี้ และยืนยันที่จะสร้างเทอร์มินอล 2 แบบตัดแปะ ผมกลัวว่าอาจจะเกิดข้อครหานินทาได้ว่ารัฐมนตรีทำเพื่อผลประโยชน์ต่อนายทุนที่ใกล้ชิดกับตัวเองหรือไม่ ตรงนี้คือเรื่องที่ผมเป็นห่วงว่าจะเกิดข่าวที่ไม่ดีออกมาได้ในอนาคต” นพ.ระวี กล่าว.-สำนักข่าวไทย