“อ.จิราพร” ย้ำไม่ได้มีมติเลื่อนแบนสารเคมี ผิดหวัง “สุริยะ” อ้าง เป็นมติเอกฉันท์

สำนักข่าวไทย 29 พ.ย.- “อ.จิราพร”  รับผิดหวัง “สุริยะ” แถลงเลื่อนแบน 3 สารเคมี เป็นมติเอกฉันท์ ทั้งที่ตนยันให้แบนสารเคมี ส่วนผลประชุมล่าสุดมีผลหรือไม่ ต้องให้นักกฎหมายตีความ


ในการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)รศ.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม ได้เดินทางมาร่วมประชุม โดยมีตัวแทนภาคประชาชนมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจจากการที่ รศ.ภญ.จิราพร ต่อสู้เรื่องการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตรทั้ง พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต และประกาศลาออกจากตำแหน่งกรรมการวัตถุอันตราย เพราะรับไม่ได้กับการออกมาแถลงข่าวของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเป็นเอกฉันท์ในการยืดเวลาแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส ออกไป 6 เดือน และให้จำกัดการใช้ไกลโฟเซตตามเดิม ทั้งที่คัดค้านเต็มที่


รศ.ภญ.จิราพร กล่าวว่า อย่างที่ตนเองโพสต์ข้อความไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่ารู้สึกผิดหวังกับกระบวนการหรือวิธีการประชุม ซึ่งค่อนข้างสับสน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบียบวาระ หรือการรับฟังความคิดเห็นของกรรมการ ซึ่งตนเองแสดงความเห็นคัดค้านทั้ง 3 สารเคมีว่า มีอันตราย และเห็นควรยืนยันมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 ที่ให้แบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดมาตลอดการประชุม แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่ตนไปขอให้ฝ่ายเลขาฯ บันทึกไว้เรื่องคงมติวันที่ 22 ต.ค.กลับไม่ได้ปรากฏออกมา จึงรู้สึกผิดหวังและหดหู่ในการที่จะทำงานลักษณะนี้ จึงต้องแสดงจุดยืนด้วยการขอลาออก เพราะคงลำบากในการที่ทำหน้าที่ต่อ ทั้งนี้การประชุมวันนั้นก็เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ซึ่งตนก็ยืนยันให้คงมติเดิม และก็มีหลายท่านที่ยังยืนยันให้มีการแบน ดังนั้น จึงไม่ใช่มติเอกฉันท์ตามที่แถลงและสุดท้ายเหมือนเป็นภาวะจำยอม


รศ.ภญ.จิราพร กล่าวว่า วันนั้นไม่ได้มีการนับองค์ประชุมหรือลงมติที่ชัดเจน ว่าจะให้มีการยกเลิกมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ดังนั้น เมื่อไม่มีการโหวตเช่นนี้ ส่วนตัวจึงเชื่อว่ามติเดิมวันที่ 22 ต.ค. ที่ให้แบนสารเคมียังคงมีผล และการประชุมก็เป็นแค่แสดงความคิดเห็นและบันทึกลงในการประชุม ซึ่งคงต้องดูว่า สรุปบันทึกการประชุมออกมาเป็นเช่นไร จึงเป็นภาวะจำยอมที่จบการประชุมไปแบบสับสน แต่ รมว.อุตสาหกรรมในฐานะประธาน กลับไปแถลงว่าเป็นมติเอกฉันท์ของที่ประชุม ไกลโฟเซตไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งยืนยันว่าในที่ประชุมเรายืนยันไปแล้ว เรื่องนี้คงต้องให้นักกฎหมายตีความ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์