กรุงเทพฯ 23 พ.ย.-ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,197 คน เรื่อง “ถอดบทเรียน แชร์ลูกโซ่ คนไทยได้รับบทเรียนอะไร” พบว่ารูปแบบแชร์ลูกโซ่ที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักและเคยทราบคือ ร้อยละ 95.9 แชร์ลูกโซ่ที่แฝงมากับการลงทุน น้ำมันทองคำสกุลเงินต่างประเทศ รองลงมาร้อยละ 52.9 คือ แชร์ลูกโซ่ที่แฝงมากับธุรกิจขายตรง และร้อยละ 50.0 คือ แชร์ลูกโซ่
ส่วนความเห็นต่อปัจจัยที่แชร์ลูกโซ่สามารถจูงใจคนให้หลงเชื่อนั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 47.7 ระบุว่าคนมีความโลภเป็นจุดอ่อน รองลงมาร้อยละ 28.6 ระบุว่าได้รับผลตอบแทนสูงมากกว่าปกติ หรือสูงกว่าทำธุรกิจอื่นๆ และร้อยละ 10.3 อยากหารายได้เพิ่มที่รวดเร็ว เห็นผลเร็ว
จากกรณีแชร์ลูกโซ่สะท้อนหรือให้บทเรียนอะไรกับสังคมไทย ประชาชนร้อยละ 40.7 ระบุว่ามีคนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อเพียงเพราะอยากได้รับผลตอบแทนสูง รองลงมาร้อยละ 21.0 ระบุว่าสังคมขาดการให้ความรู้เท่าทัน ต่อกระบวนการลงทุน และร้อยละ 17.1 ระบุว่ารายได้ในปัจจุบันไม่เพียงพอ ต้องการอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
สำหรับวิธีป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดภัยไม่ตกเป็นเหยื่อในวงจรธุรกิจแชร์ลูกโซ่ นั้น ประชาชนร้อยละ 39.8 ระบุว่า ให้ปฏิเสธทันทีเมื่อมีคนเข้ามาคุยและเชิญชวนร่วมทำธุรกิจประเภทนี้ รองลงมาร้อยละ 33.5 ระบุว่าให้คิดไว้เสมอว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และร้อยละ 14.9 ระบุว่า ต้องหาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาคนรอบข้าง ก่อนตัดสินใจ .-สำนักข่าวไทย