วิจารณ์หนัก! ด่านกักกันสัตว์ฝังไก่ทั้งเป็นเกือบ 4,000 ตัว

สงขลา 22 พ.ย. – เผยภาพสลดใจ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลา ขุดหลุมฆ่าฝังดินไก่ทั้งเป็นเกือบ 4,000 ตัว ที่ลักลอบนำเข้ามาจากมาเลเซีย และถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนักว่าทารุณสัตว์ ด้านกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว



นี่เป็นคลิปภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถ.ศรีภูวนารถ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำลายไก่ของกลางที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย เกือบ 4,000 ตัว โดยใช้วิธีการขุดหลุมฆ่าฝังดินทั้งเป็น ภายในบริเวณคอกกัก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ทำลายซากสัตว์ผิดกฎหมาย ตั้งอยู่ด้านหลังสำนักงานด่านกักกันสัตว์สงขลา ซึ่งการฝังไก่ทั้งหมดเกิดขึ้นวานนี้ (21 พ.ย.) ก่อนถมดินฝังกลบไก่ทั้งเป็น และกลายเป็นภาพที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะมองว่าเป็นการทรมานสัตว์ และมีการตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธีทำลายที่ผิดระเบียบหลักเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งจากภาพมีการจับไก่โยนลงไปในบ่อที่มีน้ำขังอยู่ทีละตัว จนขาดใจตายทับถมกันแน่นบ่อ บางตัวพยายามตีปีกเพื่อเอาชีวิตรอด แต่สุดท้ายก็ไม่รอด และถูกฝังกลบจนตายทั้งเป็น


ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลไปยังด่านกักกันสัตว์สงขลา เบื้องต้นทราบว่า ไก่ที่ถูกฆ่าฝังดิน มีจำนวน 3,984 ตัว เป็นไก่ที่ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรปาดังเบซาร์ และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลา จับกุมได้ ขณะที่มีการลักลอบขนเข้ามาจากประเทศมาเลเซียหลายคันรถ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทางระเบียบศุลกากร ก็ได้ส่งให้ด่านกักสัตว์สงขลา ในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยนำมารวมไว้ภายในบริเวณคอกกัก ปล่อยให้ตากแดดตากฝน 1 วัน พร้อมกับมีการขุดหลุมเตรียมไว้ และลงมือฝังทั้งเป็น ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่าย ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพราะต้องโยนลงไปทีละตัว ซึ่งในบ่อมีน้ำขังอยู่ด้วย เนื่องจากระหว่างที่ขุดหลุมรอ มีฝนตกลงมา


ทั้งนี้ ตามกฎหมายโรคระบาดสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก รวมทั้งไก่ที่ลักลอบนำเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ต้องถูกกำจัดทำลายเท่านั้น ไม่สามารถเลี้ยงหรือขายทอดตลาด อันเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกสากล แต่จากการตรวจสอบข้อมูลวิธีการทำลาย พบว่าเป็นการทำลายโดยผิดวิธีและผิดหลักเกณฑ์ของกรมปศุสัตว์ แต่การที่เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลาใช้วิธีฝังทั้งเป็น อาจเป็นไปได้ว่า จำนวนไก่ที่มีมากขนาดนี้ หากทำตามระเบียบค่อนข้างลำบากและยุ่งยาก จึงใช้วิธีขุดหลุมฝังกลบแทน ซึ่งสะดวกและง่ายกว่า และเป็นครั้งแรกที่มีการยึดไก่ได้มากขนาดนี้

สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการทำลายสัตว์ที่เป็นโรคระบาด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคระบาด หรือสัตว์หรือซากสัตว์ที่เป็นพาหะของโรคระบาด พ.ศ. 2562 ตามประกาศของกรมปศุสัตว์ ให้ดำเนินการตามหลักการการุณยฆาต โดยเฉพาะกรณีนกไก่เป็ดห่าน ให้ใช้สารเคมีให้สัตว์กิน ฉีดหรือสูดดมเข้าร่างกายสัตว์ เพื่อให้สัตว์นั้นตายโดยไม่ทรมาน หรือใช้วิธีการดึงคอให้สัตว์ตาย

ล่าสุดทางกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ รับทราบแล้ว และได้สั่งการให้หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา ชี้แจงข้อเท็จจริงโดยด่วน เนื่องจากภาพที่ปรากฏออกมาสร้างความสะเทือนใจ และถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการทรมานสัตว์ แม้จะเป็นไก่เลี้ยงจากฟาร์มก็ตาม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว