กรุงเทพฯ
4 พ.ย.-นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
กล่าวว่า กบข. มั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัวกระเตื้องขึ้น โดยในไตรมาส 3 คาดว่าจะขยายตัวได้
2.9% และไตรมาส 4 ที่ 3.1% ขึ้นไป ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากอัตราการเติบโตที่ 2.5%
ในครึ่งปีแรก
เนื่องจากได้รับอานิสงส์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งในส่วนที่เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย
และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร
การกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ
รวมถึงมาตรการกระตุ้นการลงทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นต้น
ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 3.2 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี
ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองในเรื่อง ค่าเงินบาท ที่ปัจจุบันแข็งค่าขึ้น
7.82% เป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย
มีสาเหตุหลักมาจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องของไทย
ขณะที่สกุลเงินของประเทศอื่นในภูมิภาคไม่แข็งค่าเท่าเงินบาท เช่น
ค่าเงินวอนเกาหลีอ่อนค่าลง 4.1% ค่าเงินมาเลเซียริงกิตอ่อนค่าลง 1.1%
และค่าเงินฟิลิปปินส์เปโซ 3.5%
ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลลบต่อการขยายตัวของการส่งออกทั้งสินค้าและบริการของไทยในระยะต่อไป
ประกอบกับปัจจัยเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาก
โดยธนาคารกลางทั่วโลกประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ซึ่ง กบข.
คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้
สำหรับผลตอบแทนการลงทุน
กบข. ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 กองทุนสามารถทำผลตอบแทนได้ 4.7%
ปรับตัวขึ้นจากผลตอบแทนตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว
และการลดลงของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรทั่วโลก ปัจจุบัน กบข.
มีเงินกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ 935,000 ล้านบาท โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์
15 ประเภท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย