เมืองทองธานี 2 พ.ย.-รมว.ต่างประเทศ เผยที่ประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่ 20 หารือความคืบหน้าการขับเคลื่อนความร่วมมือ ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” เดินหน้าแผนประชาคมการเมืองและความมั่นคงไปกว่าร้อยละ 94 ย้ำสร้างความร่วมมือเพื่อประโยชน์ทุกฝ่าย
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่ 20 (20th APSC Council Meeting) โดยที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าในการขับเคลื่อนความร่วมมือ ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” โดยเฉพาะในมิติความมั่นคงอย่างยั่งยืน และติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานในประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน อาทิ สถานะการดำเนินงานขององค์กรอาเซียนเฉพาะสาขา (ASEAN Sectoral Bodies) และกลไกการประชุมภายใต้เสาการเมืองและความมั่นคง รวมถึงความคืบหน้าของแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ค.ศ.2025 (APSC Blueprint 2025)
นายดอน กล่าวว่า การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน เป็นโอกาสดีที่ให้มีการเดินหน้าความร่วมมือในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิยุทธศาสตร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เร่งด่วนท่ามกลางความไม่แน่นอน เทคโนโลยีก้าวกระโดด และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อาเซียนได้ดำเนินกิจกรรมตามมาตรการยุทธศาสตร์ (action line) ที่ระบุในแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ค.ศ.2025 (APSC Blueprint 2025) ไปแล้วกว่าร้อยละ 94 ซึ่งต้องมีการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันในภูมิภาค สร้างความร่วมมือที่เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนในอาเซียน (ASEAN-wide Border Management Cooperation Arrangement) จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมความเชื่อมโยงอาเซียน
นอกจากนี้ นายดอน ยังเป็นประธานการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 24 (24th ASEAN Coordinating Council – ACC) เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ติดตามผลการดำเนินงานจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 และหารือเรื่องการเสริมสร้างประสิทธิภาพสำนักเลขาธิการอาเซียน การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างวิสัยทัศน์อาเซียน ค.ศ.2025 และวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ.2030 ของสหประชาชาติ ตลอดจนการเสริมสร้างทุนมนุษย์และความเชื่อมโยงในอาเซียนมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย