กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ระบุเสียใจที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายลงมติแบน 3 สารเคมีเกษตร เตรียมล่ารายชื่อเกษตรกรที่ต้องการใช้ต่อเสนอนายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศแบนพรรคภูมิใจไทยไม่เลือกมาตัวแทนเกษตรกรอีก
นายสุกรรณ์ สังขวรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เปิดเผยภายหลังทราบผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ลงมติตามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้แบน 3 สารเคมีเกษตร คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ว่า เกษตรกรเสียใจมากต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย แต่ไม่ยอมแพ้จะสู้ต่อไป โดยขอร้องให้พี่น้องเกษตรกรแสดงพลัง ด้วยการแสดงตัวว่า ยังเป็นผู้ที่ต้องการใช้ 3 สารเคมีต่อไป โดยกรอกความต้องการในเอกสารออกให้ได้จำนวนมากที่สุด จากนั้นจะรวบรวมนำเสนอให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
“เอกสารรายชื่อที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรีนำไปประกอบการพิจารณา เพราะมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเป็นมติอัปยศ เกษตรกรรับไม่ได้ กับคนไม่กี่คนที่ตั้งธงแบน 3 สารเคมีมาก่อนการประชุมในวันนี้ และการประชุมวันนี้เป็นการประชุมที่เร่งด่วนมาก ซึ่งจริง ๆ แล้ววันที่ 27 ตุลาคม 2562 ถึงจะมีคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ แต่กลับกลายมีการสั่งการจากใครไม่ทราบให้มีการประชุมวันนี้ เราก็น่าจะรู้ว่ามันเกิดจากอะไรบ้าง แต่เกษตรกรสู้แน่นอนครับไม่ถอย เพราะเราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว” นายสุกรรณ์ กล่าว
นายสุกรรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ใช้ 3 สารเคมีนี้กับพืช 6 ชนิด ประมาณ 1.5 ล้านครอบครัว ครอบครัวละ 4 คน รวมผู้เกี่ยวข้องกว่า 30 ล้านคน และต้องอาศัยรายได้จากภาคเกษตร แม้เกษตรกรในภาพรวมไม่ได้ใช้เคมีทั้ง 3 ชนิดทั้งหมด แต่ภาคการเกษตรมีการใช้สารเคมีมากถึง 200-300 ตัว เกษตรกรใช้อย่างเป็นปกติ สามารถอยู่ได้และบริโภคอาหาร ทำไมอยู่ได้ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่อ้างว่าผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบ และกระแสมีสารทดแทนผู้บริโภคก็ไม่ได้อะไร มีปริมาณยาพิษมากกว่าเดิมด้วย เกษตรกรก็ยังต้องใช้ยาและจ่ายเงินให้กลุ่มใหม่ด้วย เป็นการปล้นแบบนักธุรกิจปล้น
นายสุกรรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรผิดหวังตั้งแต่ได้ตัวแทนผ่านการเลือกตั้งเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนเกษตรกร ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่คิดแบนปัจจัยการผลิตของเกษตรกร และมองว่าเราเป็นผู้บริโภคและผลิตด้วย แต่กระทรวงสาธารณสุขประกาศแบนเช่นกัน ขอบอกว่าจะแบนพรรคภูมิใจไทย อย่าให้มาเป็นตัวแทนเกษตรกรอีก.-สำนักข่าวไทย