กรุงเทพฯ 31 ต.ค.- การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เริ่มต้นช่วง 16.00 น. นำโดยกลุ่มคณะราษฎร ข้อเรียกร้องวันนี้คือ การแก้กฎหมายมาตรา 112 และขอให้ปล่อยผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุม พร้อมล่ารายชื่อ 10,000 รายชื่อ เตรียมยื่นทำเนียบรัฐบาลวันพรุ่งนี้
บรรยากาศการชุมนุมที่ห่างหายไปร่วมๆ 2 เดือน กลับมาแล้ว โดยแกนนำบอกว่า วันนี้ม็อบจุดติดอีกครั้ง จุดเริ่มต้นของการชุมนุมกลับมาแล้ว พร้อมข้อเรียกร้องครั้งใหม่ให้ยกเลิก มาตรา 112
บรรยากาศการชุมนุมของม็อบ 31 ตุลา ที่แยกราชประสงค์ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลา 16.00 น. โดยวันนี้แกนนำตั้งเวที บริเวณด้านหน้าบิ๊กซีราชประสงค์ หันหน้าไปทางแยกราชประสงค์ มีการตั้งเต๊นท์ของกลุ่มกิจกรรมทางการเมือง ทั้งกลุ่มคณะราษฎร์ กลุ่มธรรมศาสตร์ กลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งการชุมนุมมีการตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ ให้เข้าออกทางเดียว
นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมม็อบ 31 ตุลา ในวันนี้ว่า เป็นการเรียกร้อง 2 ข้อหลักๆ คือ แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และ ขอให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีในข้อหามาตรา 112 ซึ่งกิจกรรมวันนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีความรุนแรง เพราะไม่ได้มีการเคลื่อนขบวนไปสถานที่ราชการ เป็นม็อบอยู่กับที่ และจะเลิกตามเวลาที่ประกาศไว้คือประมาณ 22.00 น. โดยไฮไลต์วันนี้ มีการร่วมกับแอมเนสตี้ ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชน 10,000 รายชื่อ เพื่อยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 โดยรายชื่อทั้งหมดทางรุ้ง ปรัสยา จะนำไปยื่นผ่านตัวแทนรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.
แกนนำกลุ่มคณะราษฎร มองว่าวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการชุมนุมอีกครั้ง หลังจากเผชิญ 2 ปัจจัยที่ทำให้ม็อบจุดไม่ติด คือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่คนตกงาน
ส่วนการชุมนุมวันนี้ จะเป็นเหตุให้ผิดเงื่อนไขของศาล ที่ห้ามแกนนำชุมนุมหรือไม่นั้น รุ้ง ปนัสยา กล่าวว่า ในวันที่ 3 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ศาลนัดไต่สวนถอนประกันตนเอง ซึ่งเธอยอมรับว่าทำใจไว้แล้ว ว่าอาจต้องกลับเข้าไปในเรือนจำอีกครั้ง แต่ในเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ศาลระบุเงื่อนไขว่า ห้ามชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้น การมาชุมนุมในวันนี้ ตนมองว่าเป็นการชุมนุมแบบสงบ ไม่ได้ก่อให้เกิดความรุนแรงใดๆ
ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุม ตำรวจนครบาลจัดกำลัง 2 จุด คือบริเวณแยกราชประสงค์ และ แยกประตูน้ำ เป็นที่น่าสังเกตว่า ตำรวจบางส่วนพกปืนประจำกายเข้ามาในที่ชุมนุมด้วยมต่างจากการชุมนุมที่ผ่านมา ที่มักมีเพียงโล่ และกระบอง ควบคุมฝูงชนเท่านั้น เรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช. เผยว่าเนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมเปลี่ยนไป มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตำรวจต้องปรับแผนการรับมือ จากการขอคืนพื้นที่ เป็นการป้องกันเหตุแทน ทำให้ตำรวจนครบาลปรับใช้ตำรวจสายตรวจในเครื่องแบบ ซึ่งมีปืนประจำกาย เข้ามาดูแลความเรียบร้อยได้ อยากให้มองว่าตำรวจพกปืนเพื่อเป็นการป้องกันเหตุเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย