นายกฯ หารือบริษัท GDS International พร้อมลงทุน Data Center

ทำเนียบ 5 พ.ย.-“แพทองธาร” นายกฯ หารือบริษัท GDS International พร้อมลงทุน Data Center หนุนไทยสู่ฮับเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน ร่วมสนับสนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ One Family One Soft Power ควบพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ นาย William Wei Huang ผู้ก่อตั้ง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท GDS Holdings และ Ms. Jamie Gee Choo Khoo ประธานของบริษัท GDS International (GDSI) โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้


นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับแนวทางการลงทุนของบริษัท GDSI ทราบว่า จะมีแผนการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Hyperscale Data Center) ในจังหวัดชลบุรีของไทย โดยเป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ที่ได้อนุมัติจากบอร์ด BOI ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเพื่อขยายการลงทุนในประเทศไทย ขอให้ความมั่นใจว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่บริษัทที่ลงทุนในประเทศไทยอย่างเต็มที่

ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท GDS กล่าวมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยที่สามารถเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับประเทศอื่น ๆ ได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไทยมีสาธารณูปโภคที่ครอบคลุม มีความพร้อมของสภาพแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่เอื้ออำนวยต่อการ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของ Data Center ในภูมิภาคได้ สามารถรองรับการขยายตัวของการใช้บริการ Cloud Services และเทคโนโลยี AI ปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้ามากกว่า 1,000 รายจากทั่วโลก รวมทั้งพันธมิตรในอุตสาหกรรมมากกว่า 1,000 ราย จึงพร้อมสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศของ Data Center ในไทย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาดิจิทัลในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพร้อมดำเนินกิจการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยและมีแนวทางที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่อง


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมอบหมาย BOI ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานงานหลักในการอำนวยความสะดวกด้านการขออนุญาตต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ที่เข้ามาลงทุนในไทย และได้รับการอนุมัติดำเนินการตามกระบวนการที่จำเป็น โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมปัจจัยการลงทุนควบคู่ด้วย โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะบุคลากรของไทยให้มีความพร้อมรองรับการทำงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะสร้างโอกาส สร้างอาชีพให้กับประชาชนมากขึ้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีนำเสนอถึง นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (One Family One Soft Power) เพื่อรองรับแรงงานทักษะสูง พร้อมกับส่งเสริมการพัฒนาทักษะ Upskill – Reskill ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยมีแนวทางที่จะมอบทุนการศึกษาด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ พร้อมเชิญบริษัทฯ เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลให้กับมหาวิทยาลัยในไทย โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ซึ่งบริษัทฯ เห็นพ้องที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ผ่านการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยยินดีที่จะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรและสถาบันการศึกษาของไทยเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและทักษะดิจิทัลขั้นสูงให้แก่บุคลากรไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมในอนาคต.-319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า-กทม.อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนภาคกลาง รวม กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนในตอนกลางวัน

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก เสียชีวิต 2 ราย

เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วัดไทยในเขตบรองซ์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพระไทยที่จำพรรษาในวัด

ปฏิบัติการกวาดล้าง “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท หลังพบช่วง 2 ปีนี้ ขนไอซ์จากชายแดนลงไปภาคกลางไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เฉพาะที่ถูกจับได้ 3 ครั้ง ยึดไอซ์ได้กว่า 3,000 กิโลกรัม