นายกฯ โต้กลับ “ยุทธพงศ์” ขอให้ไปศึกษาเงินคงคลัง-ระบบภาษีใหม่

รัฐสภา 18 ต.ค.-นายกรัฐมนตรี โต้กลับ “ยุทธพงศ์” ขอให้ไปศึกษาเงินคงคลัง และระบบภาษีใหม่ ลั่นมีหลักฐานใครเรียกรับผลประโยชน์ให้ระวังตัว ไม่เอาไว้แน่ สั่งตรวจสอบเปิดบ่อนกลางกรุงแล้ว ขอคนพูดอย่าพูดลอย ๆ ให้แจ้งความเอาผิดด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันนี้ (18 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายสาเหตุที่จะไม่ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ว่า มีความไม่เหมาะสม 4 ด้าน ทั้งการสะท้อนว่าไม่มีวินัยการเงินการคลัง เพราะรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กู้เงินเพิ่มเติมทุกปี นับจากเข้ามาเป็นรัฐบาล คสช.รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านล้านบาท พร้อมบอกไม่เชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เงิน 1.2 แสนล้านบาท แล้วจะดูแลบังคับใช้กฎหมายและป้องกันอาชญากรรมได้


นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลใช้เงินมหาศาลไปกระตุ้นเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง แต่ไม่เกิดผล เช่น ถนนธนิยะ ถนนสีลม ที่เป็นย่านธุรกิจ แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจซบเซา ทำให้สถานที่บางแห่งเปิดเป็นบ่อนการพนันกาสิโน เรื่องนี้ตัวเองขอฟ้องนายกรัฐมนตรีต้องไปจัดการ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และการที่รัฐบาลไม่ทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะข้อ 8 ที่บอกว่าแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ แต่ทางกลับกัน การลงทุนโครงการต่าง ๆ กลับมีการทุจริต และโครงการมีความเลื่อนลอย ทำไม่ได้จริง

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เรื่องทุจริตโครงการรถไฟฟ้าได้ยินเหมือนกันว่ามีคนไปเรียกรับผลประโยชน์ จะพยายามหาคำตอบเหมือนกัน แต่ก็ไม่พบหลักฐาน ถ้าใครมีหลักฐานให้หามาเลย ยืนยันตามหลักการจะไม่เอาไว้เหมือนกัน ถ้าตรวจสอบพบหลักฐานว่าผิดจริง ก็ดำเนินการทั้งสิ้น

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงที่มีคนถามว่าไปไหนมา เมื่อช่วงเเช้า ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ฯ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร


“แม้จะไม่ได้เข้าสภาฯ แต่ก็ฟังในรถ และเปิดทีวีฟังตลอด ซึ่งเมื่อคืนเดินทางกลับเวลา 01.00 น. นอนเวลา 02.00 น. ก็ยังได้ยินเสียงของ ส.ส. ดังนั้นขอบอกว่าไม่ได้หายไปไหน ส่วนที่กล่าวหาว่ากู้เงินจำนวนมาก ให้ไปดูหลักฐาน เพราะรวมแล้วยังกู้น้อยกว่ารัฐบาลเมื่อ 5-10 ปีที่ผานมา มีรัฐบาลเดียว ไม่อยากเอ่ยนาม ที่ทำงบประมาณสมดุล เพราะไอเอ็มเอฟไม่ให้ทำงบประมาณแบบขาดดุล ดังนั้น ถ้าพูดแบบไม่มีหลักฐาน ก็พูดกันไปเรื่อย ส่วนที่ไม่นำเงินคงคลังมาใช้นั้น คนที่พูดเช่นนี้ไม่เข้าใจถึงระบบงบประมาณ จึงพูดแบบนี้ เพราะเงินต้องเก็บไว้ที่เงินคงคลัง ให้คณะกรรมการทยอยเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งขอให้ไปศึกษาระบบภาษีด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่นายยุทธพงศ์ ระบุมีการเปิดบ่อนกลางกรุง ว่า อย่าไปถ่ายรูปอย่างเดียว ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบ เพราะมีการแจ้งมามากในโซเชียลมีเดีย ซึ่งตนได้สั่งให้ตรวจสอบแล้ว และยืนยันขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ ถ้าใครไปเรียกรับประโยชน์จะไปถาม จะได้รู้ว่าใคร ก็ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่มีการล็อคสเปคโครงการก่อสร้างถนน 2 สายใน กทม. รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามที่ฝ่ายค้านอภิปรายตั้งข้อสังเกต ซึ่งยินดีรับข้อสังเกตดังกล่าวไปตรวจสอบ หากพบการกระทำทุจริต ผู้ที่รับผิดชอบโครงการฯ จะต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน ส่วนการต่ออายุสัมปทานบีทีเอสที่จะสิ้นสุดในปี 2572 ยืนยันว่าเป็นผลมาจากส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แม้จะสามารถทำได้แต่ไม่มีรายได้ที่จะจ่ายเงินลงทุนในส่วนต่อขยายนี้  อีกทั้งการเดินรถในช่วง 10 ปีแรก จะขาดทุนแน่นอน และอาจขาดทุนต่อเนื่อง ดังนั้นไม่ทราบว่าจะนำเงินส่วนใดมาจ่ายหนี้ ทำให้เกิดปัญหาในอนาคต และจะทำให้ กทม.จะต้องมาแบกรับภาระหนี้แทน รฟม. ยืนยันว่าหากหมดสัมปทานจากบีทีเอสแล้ว จะสามารถมีเงินมาชำระหนี้สาธารณะได้ เนื่องจาก คสช.ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ขึ้นมาเพื่อพิจารณาในการต่อสัมปทาน โดยขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่าการดำเนินการเรื่องนี้จะเป็นไปอย่างโปร่งใส

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุนรัฐบาล เพราะเห็นว่าในอนาคตรัฐบาลจะสามารถทำให้รถไฟฟ้าเป็นระบบเดียวกันได้อยู่แล้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน และเห็นว่าหากยังคงแยกกันระหว่าง รฟม.กับบีทีเอส จะเกิดปัญหา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี