ลอสแอนเจลิส 12 ต.ค.- ประชาชนร่วมแสนคนในเขตเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียของสหรัฐต้องอพยพกลางดึกเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หนีไฟป่าที่ลามอย่างรวดเร็วตามกระแสลมแรง เผาบ้านเรือนและพื้นที่ป่าตามขอบทางเหนือของนครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) หลังจากปะทุขึ้นเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
ไฟป่าชื่อแซดเดิลริดจ์ ไฟร์ เผาพื้นที่ในเขตหุบเขาซานเฟอร์นันโด ทางเหนือของแอลเอไปแล้ว 18,855 ไร่ สิ่งก่อสร้างเสียหาย 31 หลัง เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟได้ราวร้อยละ 13 ชายวัย 50 ปีเศษคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะหัวใจวายขณะพยายามป้องกันบ้านไม่ให้ถูกไฟไหม้ ไฟป่าเริ่มปะทุที่เมืองซิลมาร์เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีโดยยังไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นลามอย่างรวดเร็วเพราะลมกระโชกแรงและอากาศมีความชื้นต่ำ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแอลเอเตือนว่า ไฟป่าลุกลามรวดเร็วมากราว 2,000 ไร่ต่อชั่วโมง ดังนั้นหากทางการขอให้อพยพ ประชาชนควรปฏิบัติตามทันที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 1,000 นายพร้อมเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทิ้งน้ำดับไฟกำลังต่อสู้กับไฟ จึงต้องปิดทางหลวงหลายสายรวมทั้งบริการรถไฟใต้ดินด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 200 นายกำลังควบคุมไฟป่าอีกหลายจุดในเทศมณฑลริเวอร์ไซด์ ทางตะวันออกของแอลเอ ไฟป่าจุดหนึ่งชื่อแซนดัลวูด ไฟร์ เผาสิ่งก่อสร้างไปแล้ว 76 หลัง คลอกสตรีวัย 89 ปีเสียชีวิตภายในบ้าน อย่างไรก็ดี สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติคาดว่า กระแสลมจะเริ่มเบาลง เอื้อต่อการควบคุมไฟ
ด้านบริษัทแก๊สและไฟฟ้าแปซิฟิก ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดรัฐแคลิฟอร์เนียได้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ลูกค้าราว 2 ล้านคนตั้งแต่หลายวันก่อน ล่าสุดจนถึงเมื่อค่ำวันศุกร์ยังมีผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้ราว 312,000 คนเพราะบริษัทเกรงว่าเสาไฟฟ้าที่ถูกลมพัดล้มจะทำให้เกิดประกายไฟ ทำให้ไฟป่าลามมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ว่าการรัฐตำหนิว่า บริษัทละเลยการซ่อมบำรุงและแสวงหากำไรมานานหลายสิบปีโดยไม่สนใจความปลอดภัยของประชาชน เพราะโลกยุคปัจจุบันไม่ควรต้องมีการงดจ่ายไฟฟ้าเป็นวงกว้างมากเช่นนี้ บริษัทชี้แจงว่า จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัย และต้องใช้เวลาหลายวันตรวจสอบความเสียหายของอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนจึงจะจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติอีกครั้ง บริษัทนี้เคยถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนียเดือนพฤศจิกายนปีก่อนที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 86 คน.-สำนักข่าวไทย