นครนิวยอร์ก 25 ก.ย.- นายกฯ ปาฐกถา ที่ Asia Society นิวยอร์ก ย้ำบทบาทของไทยในภูมิภาค มุ่งเสริมสร้างความเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ระบุ ในช่วงเวลาที่เหลือในฐานะประธานอาเซียน จะเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนกับประเทศทั้งภายในและภายนอกอาเซียน ขณะที่ ในฐานประธานการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ในปี 2565 ยินดีเปิดรับความเห็นและข้อแนะนำ เพื่อให้วาระประธานเอเปคของไทย เกิดประโยชน์ในวงกว้าง
“รวีวรรณ สมรภูมิ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน 2562 รายงานว่า เวลา 12.05 น. วันที่ 25 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนระหว่างประเทศ จากความแข็งแกร่งภายในสังคมไทย” ในงาน Lunch talk จัดโดย Asia Society
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มากล่าวปาฐกถา ณ Asia Society ถือเป็นปาฐกถาครั้งแรกในรอบ 7 ปี ของนายกรัฐมนตรีไทย ขอบคุณ Asia Society ที่ได้ดำเนินบทบาทอย่างแข็งขัน ในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี และความร่วมมือระหว่างเอเชียกับสหรัฐฯ เป็นเวลากว่า 60 ปี ไทยภูมิใจที่เป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่เป็นมิตรและภาคีสนธิสัญญาของสหรัฐฯ ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-สหรัฐฯ นี้ ยังได้สร้างเสถียรภาพและความเจริญสู่ภูมิภาค
“ภายใต้ความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ ไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีเสถียรภาพ สันติภาพ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสังคมอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นภูมิภาคที่เชื่อมต่อและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ หรือที่ฝ่ายสหรัฐฯ ในปัจจุบันรวมเรียกว่า อินโด-แปซิฟิก ถือว่าเป็นภูมิภาคแห่งโอกาส เนื่องจากมีประชากรรวมกันแล้วเกือบ 3 พันล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก และเป็นศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายสาขาที่สำคัญ ประเทศไทยจึงดำเนินนโยบายเพื่อเสริมสร้าง ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน กับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศนอกภูมิภาคที่ร่วมความคิด เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวไทยเอง เพื่อสามารถแสดงบทบาทนำดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พัฒนาการในประเทศไทย ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางรากฐานด้านต่างๆ แก้ปัญหาปากท้องและการเอารัดเอาเปรียบในสังคม ปรับปรุงกฎระเบียบ และวิธีทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ นักธุรกิจและนักลงทุนเพิ่มขึ้น ประกาศให้การต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ จัดการปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย พร้อมปฏิบัติตามโรดแมป
“จากนี้ ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าภายใต้รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ และมีเป้าหมายคือ จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูง ภายในปี 2579 มีความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน มีพัฒนาการทางสังคมที่เป็นธรรมและเท่าเทียมในสิทธิพื้นฐาน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ตลอดจนเพิ่มพูนบทบาทเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนกับนานาประเทศ โดยมีอาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นจุดตั้งต้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ ไม่เพียงเน้นการมองไปสู่อนาคต แต่ยังให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์อาเซียน และให้คำมั่นว่า ในช่วงเวลาการเป็นประธานอาเซียนที่เหลือของไทย จะเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนกับประเทศทั้งภายในและภายนอกอาเซียน และในปี 2565 ไทยจะรับหน้าที่ประธานการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ไทยยินดีเปิดรับความเห็นและข้อแนะนำจากมิตรประเทศ เพื่อให้วาระประธานเอเปคของไทย เกิดประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกและประชาคมระหว่างประเทศในวงกว้าง
“หวังว่าการกล่าวปาฐกถาครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเข้าใจต่อพัฒนาการและบทบาทระหว่างประเทศของประเทศไทย และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นหุ้นส่วนใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว . – สำนักข่าวไทย