นายกฯ ย้ำอาเซียนพร้อมร่วมประชาคมโลกดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ

นครนิวยอร์ก สหรัฐ 23 ก.ย. – นายกรัฐมนตรี ยืนยันอาเซียนพร้อมมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับประชาคมโลก เพื่อดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ



วันนี้ (23 ก.ย. ) เวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศสมาชิกอาเซียน ในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ (United Nations Climate Action Summit 2019) ว่า อาเซียนยินดีต่อการจัดประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Action Summit ในวันนี้ และชื่นชมเลขาธิการสหประชาชาติ ที่มีบทบาทนำในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ อาเซียนมีความเปราะบางสูงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบที่เพิ่มขึ้นก็เป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาค ดังนั้น อาเซียนจึงพยายามดำเนินมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศกับประชาคมโลกในทุกระดับ


ในระดับโลก อาเซียนสนับสนุนความพยายามในการแก้ปัญหาภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดได้เข้าเป็นภาคีความตกลงปารีส และได้ประกาศการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDCs) แล้ว

ในระดับภูมิภาค อาเซียนได้ดำเนินมาตรการยุทธศาสตร์ภายใต้แผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 2025 เพื่อมุ่งสู่การมีสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน และชุมชนที่มีภูมิต้านทาน โดยมีเป้าหมายที่สำคัญประกอบด้วย


เป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน อาเซียนได้บรรลุเป้าหมายของภูมิภาคในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ลดความเข้มข้นในการใช้พลังงานมากกว่าร้อยละ 21.9 เมื่อเทียบกับปี 2005 เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้สำหรับปี 2020 และอาเซียนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการลดความเข้มข้นในการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ภายในปี 2025 และได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นร้อยละ 23 ภายในปี 2025 ด้วย

และเป้าหมายด้านการขนส่งทางบก อาเซียนมุ่งลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยของยานพาหนะใหม่ขนาดเล็กที่จำหน่ายในอาเซียนลงร้อยละ 26 ระหว่างปี 2015-2025 นอกจากนี้ อาเซียนจะเสนอและเสริมสร้างมาตรการนโยบายการคลังบนพื้นฐานการประหยัดพลังงาน หรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับประเทศ และส่งเสริมการประกาศมาตรฐานการใช้เชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะขนาดเล็กของแต่ละประเทศ เพื่อมุ่งสู่การมีมาตรฐานระดับภูมิภาคในระยะยาว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า อาเซียนเน้นความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศกับกลไกสนับสนุน ทั้งในด้านการเสริมสร้างศักยภาพ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสนับสนุนทางการเงิน วันนี้เป็นโอกาสสำหรับประเทศพัฒนาแล้วในการดำเนินการตามคำมั่นด้านการสนับสนุนทางการเงิน และหวังจะเห็นสัญญาณทางการเมืองที่เข้มแข็งในการเพิ่มเงินทุนสนับสนุนอย่างมั่นคง ประมาณการได้ และยั่งยืน ภายหลังปี 2020 ด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่มีประเทศใดที่สามารถต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เพียงลำพัง โดยอาเซียนพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนกับประชาคมโลกในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อประกันความยั่งยืนให้กับอนุชน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ กําหนดจัดประชุม Climate Action Summit 2019 เพื่อยกระดับความมุ่งมั่นในการดําเนินการเพื่อจํากัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก และเพื่อบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส วัตถุประสงค์ของการประชุม เพื่อสะท้อนแนวทางในการเร่งรัดความเปลี่ยนแปลง และความจำเป็นที่จะต้องควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย รวมทั้งเพื่อกระตุ้นความพยายามของประเทศในการดําเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และเสนอแผนงานที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ