ปิดฉาก “กำไล EM” ไร้คุณภาพ!

กทม. 20 ก.ย. – หลังโลกโซเชียลได้ปลุกเรื่องราวมาตรฐานของกำไล EM สำหรับผู้ถูกศาลตัดสินคุมประพฤติ แต่กลับมาสามารถถอดออกได้ ไร้สัญญาณเตือน นำมาสู่การตรวจสอบของหน่วยงานต้นเรื่องอย่างกระทรวงยุติธรรม ล่าสุดผลสอบพบไม่ตรงสเปกจนต้องยกเลิกสัญญา และเรียกค่าปรับกับบริษัทให้เช่าเกือบร้อยล้านบาท


เปิดฉากอย่างเร้าใจกับมิติใหม่ประเทศไทย ในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ กำไล EM กับผู้ที่ถูกศาลตัดสินคุมความประพฤติ หวังลดความแออัดในห้องขัง โดยจะติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตลอด24 ชั่วโมง ด้วยการให้ใส่กำไล มีลักษณะคล้ายนาฬิกาข้อมือที่เหนียวแน่น ทนทานยากต่อการถอดหรือทำลาย หากคิดเอาออกก็จะส่งสัญญาณไปยังศูนย์อีเอ็มเซ็นเตอร์ส่งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม


กำไล EM เริ่มใช้มาตั้งแต่ต้นปี 2562 ทุกอย่างราบรื่นเหมือนไม่มีอะไร แต่เดือนสิงหาคม มีเอกชนเข้าร้องเรียนถึงความผิดปกติกำไล EM ที่นำเข้าจากจีน และมีปัญหาในการใช้งาน เช่น ถอดออกได้โดยที่สัญญาณไม่เตือนตามกำหนด


เผือกร้อนโยนหารัฐมนตรีใหม่รุดไปทดสอบด้วยตัวเอง พบภาพบาดใจเห็นกับตาว่าเมื่อนำมือแช่ในน้ำสบู่ก็ดึงกำไล EM ออกมาได้ แถมใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ขณะที่ยังล็อกสลักอยู่

ภาพดังกล่าวนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบก่อนพบว่าไร้ประสิทธิภาพจริง! ผิดชัดใน 3 ประเด็น ทั้งถอดออกเองได้ ใส่แล้วเกิดแพ้ผื่นคัน และแจ้งเตือนบ่อยโดยไร้เหตุ ก่อนส่งเรื่องให้บริษัทที่ชนะการประมูลเร่งแก้ไข แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ

กระทั่งวันนี้ตั้งโต๊ะแถลง ฉีกสัญญาเช่าใช้กำไล EM กับบริษัท ไม่จ่ายค่าเช่า 21 เดือน รวม 74 ล้านบาท พร้อมฟ้องเรียกค่าปรับคู่สัญญา 84 ล้านบาท ระบุชัดทำราชการเสียหายหนัก รวมถึงส่งหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมให้ทราบถึงการยกเลิกสัญญาเช่ากำไล EM แล้ว

ปัจจุบันมีผู้ต้องใช้กำไล EM 500 คน จาก 4,000 เครื่อง ระหว่างนี้อาจต้องใช้วิธีการรายงานตัวหรือบำเพ็ญประโยชน์ ส่วนปีหน้าจะนำกำไล EM กลับมาใช้ต่อหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะตอนนี้ไม่มีงบประมาณ 

ส่วนอนาคตขอหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเดินไปทิศทางใด แต่ที่สำคัญต้องรัดกุมกับทีโออาร์และคู่สัญญา เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้อีก. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก

รวบแล้วโจรสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 102 บาท จากร้านทองในห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ขยายผลตามรวบภรรยาได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ตาก

ติดเชื้อแอนแทรกซ์

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน และมีผู้สัมผัส 377 คน หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบหลายปี ส่วนที่เลย ชาวบ้านผวา พบวัว 3 ตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

โลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง การปลอมแปลงมีโทษ

กรมธนารักษ์ แจงโลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง แต่เป็น “อลูมิเนียมบรอนซ์” หลังโซเชียลแห่แชร์นำไปทำเป็นแหวนและสร้อยคอ ย้ำการปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์มีโทษ

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ตั้งคนจีนนั่งที่ปรึกษา ลั่นหลังจากนี้คงไม่มีใครทำเรื่องเช่นนี้อีก ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว ย้ำไม่มีผลกระทบงบประมาณ ชี้ไม่สามารถเบิกจ่ายอะไรได้