ยธ. 10 มี.ค.- น้องสาว “อดีตผู้กำกับโจ้” เข้าพบ “พ.ต.อ.ทวี” ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เรียกร้องให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
นางสาวธนัญญา น้องสาวของ “อดีตผู้กำกับโจ้” ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะการเสียชีวิตของพี่ชายภายในเรือนจำ พร้อมขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังได้เข้าพบรัฐมนตรี ว่าจะทำให้ครอบครัวตนเองได้รับความเป็นธรรม โดย พ.ต.อ.ทวี พร้อมอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะประธานอนุกรรมการกลั่นกรองตาม พรบ.อุ้มหายและทรมาน ได้รับเรื่องไว้ พร้อมแจ้งกับน้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ว่าขณะนี้ คณะกรรมการกำลังเร่งรวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าในวันที่ 17 มีค. เวลา 13.00 น.
ก่อนรับเรื่องจากน้องอดีตผู้กำกับโจ้ พันตำรวจเอกทวี ให้สัมภาษณ์อธิบาย เพิ่มถึงข้อซักถามของนักข่าว เรื่องอดีตผู้กำกับโจ้สมัครใจขอขังเดี่ยวหรือ ว่า ห้องดังกล่าว ไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว แต่เป็นห้องนอน ที่โดยปกติสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ 4-5 คน แต่ โจ้นอนคนเดียว และตอนกลางวันก็ยังสามารถไปร่วมกิจกรรมอื่นๆ ได้หมด และวันก่อนเกิดเหตุก็ยังได้เข้าเยี่ยมญาติด้วย ซึ่งปกติแล้วสิ่งที่ผู้ต้องขังในเรือนจำเรียกร้องมาที่สุดก็คือพื้นที่การนอน แต่ประเด็นที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือล่าช้า เนื่องจากเรือนจำมีที่ประมาณ 100 ไร่ และต้องไปเอากุญแจที่อาคารด้านนอก กว่าจะมาถึงห้องขังจึงล่าช้า
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่ตนเองเคยให้สัมภาษณ์ว่าอดีตผู้กำกับโจ้มีอาการป่วยทางจิตเวชนั้น เนื่องจากเอกสารที่ออกมาของกระทรวงยุติธรรมทำให้ตนเองเข้าใจผิด เพราะเมื่อไปพูดคุยกับแพทย์ถึงรายละเอียดแล้ว พบว่าเป็นแค่อาการวิตกกังวล ไม่ใช่อาการป่วยทางจิตเวช
ส่วนประเด็นที่มีเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์โทรฯ ไปคุยกับครอบครัวของโจ้ เพื่อให้ถอนแจ้งความ คดีทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำนั้น รมว.ยธ.กล่าวว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะถ้ามีคนเสียชีวิต ก็ถือว่าเป็นโทษวินัยร้ายแรง จะต้องมีการสอบปากคำผู้คุมและเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในขณะนั้นทั้งเรือนจำ สำหรับผ้าขนหนู เป็นผ้าที่ใช้งบประมาณของกรมราชทัณฑ์จัดซื้อมา ซึ่งผู้ต้องขังได้รับหมดทุกคน ส่วนขนาดที่มีความคลาดเคลื่อนนั้น จริงๆแล้วหน่วยวัดคลาดเคลื่อน จริงๆ คือเป็นขนาดประมาณ 40-50 นิ้ว ไม่ใช่เซนติเมตร
พันตำรวจเอกทวี ยังบอกด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หารือร่วมกับตำรวจ อัยการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็มีความมุ่งมั่นที่จะคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในเรือนจำ อะไรที่เป็นกฎระเบียบที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน หรือหลักกฎหมาย ก็ถึงเวลาสังคายนา .119.-สำนักข่าวไทย