กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – ตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรกทรุดหนัก ติดลบร้อยละ 15 ที่อยู่อาศัยรอขายมากกว่า 120,000 หน่วย คาดทั้งปีติดลบไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 41 วันที่ 12 – 15 กันยายน เวลา 10.00 – 20.00 น. บริเวณพื้นที่โซนฮอลล์ 1-3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายในงานมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหลายสาขานำสินค้ามาร่วมออกบูธมากกว่า 1,000 โครงการ จาก 100 กว่าบริษัท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 80,000-100,000 คน และจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ยอมรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ไม่ดีนัก จากปัจจัยลบต่าง ๆ อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น พร้อมห่วงว่าเรื่องน้ำท่วมจะส่งผลต่อกำลังซื้อช่วงปลายปี จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 800,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ไปแล้วกว่าร้อยละ 15 และมีคอนโดมิเนียมรอการขายอยู่ที่ 80,000 ยูนิต บ้านจัดสรร 40,000 ยูนิต รวมกว่า 120,000 ยูนิต ส่วนราคาขายยังทรงตัว เชื่อว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์โตติดลบร้อยละ 10 ซึ่งปีหน้าต้องรอดูปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ กระทบกับการส่งออกอย่างไร Brexit และค่าเงินบาทด้วย
สำหรับยอดขายอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก 2562 ติดลบร้อยละ 15 โดยมียอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงถึงร้อยละ 35 ซึ่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมถูกปฏิเสธมากที่สุด ส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ติดลบถึงร้อยละ 25 โดยมีที่อยู่อาศัยแนวราบเข้ามาช่วยพยุงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ไว้ แต่ยอดขายที่อยู่อาศัยแนวราบก็ยังทรงตัวไม่ได้เติบโตแบบโดดเด่น ทั้งนี้ เชื่อว่าถ้ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ตลาดค่อนข้างซบเซา โดยเฉพาะภูมิภาค เพราะรายได้ของเกษตรกรลดลงจากปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม
ส่วนการผ่อนเกณฑ์มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำหรับผู้กู้ร่วมไม่นับเป็นสัญญากู้ ถือว่าเป็นเรื่องดีที่แบงก์ชาติผ่อนปรนตามข้อเสนอที่เอกชนเรียกร้องมาโดยตลอด ช่วยตลาดอสังหาฯ ดีขึ้น เป็นการปลดล็อคให้กับธุรกิจอสังหาฯ ผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยให้กำลังซื้อบ้านกลุ่มต่ำกว่า 5 ล้านบาทและต่ำกว่า 3 ล้านบาท หรือระดับกลาง-ล่างกลับมาประมาณร้อยละ 10
ทั้งนี้ ได้เสนอให้ ธปท.ทบทวนมาตรการ LTV ไม่ควรใช้มาตรการเดียวกันกับทุกประเภทโครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง หากกังวลเรื่องเก็งกำไรควรคุมเฉพาะแนวสูง ในส่วนของแนวราบไม่มีการเก็งกำไรอยู่แล้ว นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องการใช้ราคาประเมินในการขอสินเชื่อจากที่ใช้ราคาซื้อขายจริงในตลาด เพราะอาจทำให้เกิดช่องว่างที่จะกู้เกินจริงและปัญหาเดิมวนกลับมา อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ LTV ส่งผลให้คนที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ขณะนี้เป็นคนที่จะซื้อเพื่อที่จะอยู่ 100 % จากเดิมสัดส่วนการเก็งกำไรอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 – 20 หายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดคอนโดมิเนียม
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า คาดจีดีพีปีนี้โตมากกว่าร้อยละ 3 โดยสัปดาห์หน้าจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นการส่งออก หลังจากออกมาตรการช่วยเหลือภาคการเกษตร เอสเอ็มอี ท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยรัฐบาลจะมีการเชิญภาคอสังหาริมทรัพย์มาพูดคุยถึงทิศทางและมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ภายใน 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่งนับจากนี้ หลังจากมาตรการอาจจะสร้างความเชื่อมั่นและดึงชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและอยู่อาศัยในประเทศไทย เช่น ชาวฮ่องกงที่กำลังหาที่อยู่อาศัย หรือบ้านหลังที่ 2 นอกประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่มียอดปฏิเสธสูงขึ้น ซึ่งจากนี้ต้องมีการคุยกับทางอสังหาริมทรัพย์ก่อน จึงจะเชิญธนาคารพาณิชย์มาหารืออีกครั้งหนึ่ง . – สำนักข่าวไทย