เกษตรฯ หนุนเลี้ยงโคเนื้อสร้างรายได้

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เกษตรฯ เดินหน้าโครงการโคเนื้อ-โคขุนล้านตัวส่งตลาดจีน คาดสร้างรายได้เกษตรกรกว่า 40,000 บาทต่อครัวเรือน ยันใช้ลูกโคในประเทศเป็นหลัก เตรียมเดินหน้ารุ่นแรกเดือนตุลาคมทันทีหลังน้ำลด 


กลุ่มเกษตรกรกว่า 500  คน ประสบอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่  ขอนแก่น สกลนคร อุบลราชธานี  ศรีสะเกษ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ-โคขุน ได้ยื่นหนังสือขอให้กระทรวงเกษตรฯ ช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน และมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการดังกล่าว 

นายประพัฒน์ โพธสุธน และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับหนังสือและชี้แจงรายละเอียดโครงการนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลด พร้อมรับปากจะเดินหน้าแก้ปัญหาด่วนที่สุด


นายประพัฒน์  เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ วางแผนสร้างรายได้เกษตรกร โดยมีโครงการเร่งด่วน 4 โครงการ คือ โครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเขียวหลังน้ำลด โดยมีผู้แสดงความจำนงรับซื้อจากเกษตรกรกว่า 6 ตัน ซึ่งประกันราคารับซื้อกิโลกรัมละ 30 บาท โดยเกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการ 50,000 ราย โครงการส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมากกว่า 200,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยมีผู้ร่วมโครงการ 50,000 ราย โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพด 1 ไร่ โดยประกันราคากิโลกรัมละ 8 บาท เบื้องต้นมีเอกชนแสดงความจำนงรับซื้อข้าวโพดจำนวนดังกล่าวแล้ว ภาครัฐจะแจกเมล็ดพันธุ์ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยถั่วเขียว 5  กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวโพด 3.5 กิโลกรัมต่อไร่  ซึ่งจะขอใช้งบประมาณจากรัฐบาลจัดซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวโพดและเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวรวม 710 ล้านบาท 

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีแนวคิดส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุน 1 ล้านตัว เพื่อส่งออกไปจีน เบื้องต้นประสานงานกับกลุ่มเอกชนที่เดินทางเข้าพบช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอกชนจีนประสงค์จะขอซื้อโคเนื้อ และโคขุนจากประเทศไทยจำนวนมาก โดยต้องการโคเนื้อและโคขุนที่มีน้ำหนัก 420 กิโลกรัม วันละกว่า 2,500 ตัว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ไปดูตลาดว่าสามารถส่งออกได้จริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าเริ่มสร้างโรงเชือดที่เป็นมาตรฐานจากกลุ่มเอกชนจีนที่ประเทศลาวขณะนี้ใกล้เสร็จ จากนั้นสามารถส่งออกได้ทันที เริ่มดำเนินการตามโครงการจะเลี้ยงโคขุน-โคเนื้อที่เป็นลูกโคน้ำหนัก 250 กิโลกรัมให้ได้น้ำหนัก 450 กิโลกรัม ภายใน 120 วัน โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 1 ราย สามารถเลี้ยงโคได้ 5 ตัว ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้หักค่าใช้จ่ายตัวละไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท โครงการนี้สามารถรองรับเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย ทั้งนี้ จะสนับสนุนแหล่งเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อซื้อลูกโคตัวละ 24,000 บาท น้ำหนักลูกโคต้องไม่ต่ำกว่า  250 กิโลกรัม เพื่อนำไปเลี้ยงให้ได้น้ำหนัก450 กิโลกรัม ก่อนขายให้โรงเชือดของจีนต่อไป โดยให้เกษตรกรเลือกลูกโคเองและใช้โคในประเทศเป็นหลัก ซึ่ง ธ.ก.ส.จะเป็นผู้จ่ายแทนเกษตรกรทั้งหมดโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 

นอกจากนี้ ยังมีการทำประกันการตายของลูกโคในโครงการทั้งหมดตัวละ 400 บาท หากตายระหว่างการเลี้ยง เกษตรกรไม่ต้องรับภาระหนี้สิน โดยจะของบประมาณจากรัฐบาลในการทำประกันโคในโครงการทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีการส่งเสริมการผลิตอาหารให้โคขุนในโครงการ ซึ่งเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีการรวมกลุ่มกัน ทางภาครัฐจะสนับสนุนในการจัดซื้อเครื่องผสมอาหารสัตว์ให้เป็นไปตามสูตรของกรมปศุสัตว์ โดยมีต้นทุนอาหารสัตว์กิโลกกรัมละ 4 บาท  เครื่องผสมอาหารสัตว์เครื่องละ 500,000 บาท ซึ่งภาครัฐจะออกให้ร้อยละ 70  กลุ่มเกษตรกรออกอีกร้อยละ 30 เพื่อให้เกษตรกรรู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของทำให้โคในโครงการโตเร็วให้เพิ่มขึ้นวันละกว่า 1.5 กิโลกรัม ภายใน 120 วัน จะสามารถส่งให้กับโรงเชือดได้ทันที โครงการทั้งหมดของการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ-โคขุน โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเสนอของบ กลางเพียง 3,720 ล้านบาท และกรมน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้ามาเจาะบ่อบาดาล เพื่อปลูกหญ้าเลี้ยงโคขุนในโครงการ โดยบาดาล 1 บ่อสามารถปลูกหญ้าได้กว่า 100 ไร่ คาดว่า อาหารจะเพียงพอต่อการเลี้ยงโคในโครงการทั้งหมด เกษตรกรที่่เข้าร่วมโครงการจะได้กำไรจากการเลี้ยงโคครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าตัวละ 8,000 บาท 


“โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุนครั้งนี้ขอใช้งบกลางน้อยมากได้สรุปรายละเอียดโครงการนำเสนอ รมว. เกษตรฯ แล้ว โดย รมว. เกษตรฯ ยินดีที่จะนำเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร คาดว่าจะเริ่มเลี้ยงเดือนตุลาคมนี้แน่นอนทันทีหลังน้ำลด” นายประพัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง