กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – เอ็กโก กรุ๊ป โชว์กำไรครึ่งปีแรกปี 62 กว่า 5,500 ล้านบาท เดินหน้าทำ EIA นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง พร้อม COD 2 โรงไฟฟ้าใหม่ต่างประเทศปลายปี
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2562 ว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนงาน โดยบริษัทฯ มีกําไรจากการดำเนินงานปกติก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า 5,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1,045 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23 หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2562 บริษัทฯ มีกําไรจากการดำเนินงาน ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า 2,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 106 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 หุ้นละ 3.25 บาท วันที่ 16 กันยายน 2562
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี และน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าถ่านหินซานบัวนาเวนทูราในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความก้าวหน้าตามแผนงาน โดยโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและซานบัวนาเวนทูรา มีกำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ไตรมาส 4 ปี 2562 ทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่โรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2565 สำหรับโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดงประเทศเกาหลีใต้ เพิ่งเริ่มก่อสร้างเดือนสิงหาคม 2562 และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาส 4 ปี 2563
ด้านความคืบหน้าการลงทุนปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน ภายใต้ชื่อนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง โดยได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าระยอง จ.ระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรมลักษณะ Smart Industrial Estate รองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง นายจักษ์กริช กล่าวว่า เอ็กโก กรุ๊ป ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญ ทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานหมุนเวียนและเชื้อเพลิงใหม่ เช่น เซลล์เชื้อเพลิง โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะขยายการลงทุนในประเทศที่มีฐานอยู่แล้ว เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และเจาะตลาดในประเทศใหม่ ๆ เช่น ไต้หวัน เป็นต้น นอกจากนั้น ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจ LNG และนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน เพื่อให้สอดรับกับยุคดิสรัปชั่น .-สำนักข่าวไทย