กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – กรมบัญชีกลางเร่งเครื่องกระตุ้นชิมช้อปใช้ต่อเนื่อง รับยอดสมัครร้านค้ายังไม่เข้าเป้า 6 วัน เพียง 2,800 ร้านค้า เตรียมทบทวนขยายเวลารับสมัครออกไปอีก
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการ ร้านค้า มาฟังบรรยาย ขั้นตอนวิธีการและประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าร่วมมาตรการชิม ช้อป ใช้ ของรัฐบาล ซึ่งมีผู้สนใจมาฟังจำนวนมาก ซึ่งยอดผู้ประกอบการการ ร้านค้าที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการนี้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 มีเพียง 2,800 ร้านค้า โดยส่วนใหญ่เป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้ามากที่สุด จึงมีการปรับเป้าการรับสมัครผู้ประกอบการ ร้านค้าเหลือ 10,000 ร้านค้า จากเป้าหมาย 50,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และหากไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้วันที่ 20 กันยายนนี้ อาจจะพิจารณาทบทวนขยายระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าออกไปอีก ซึ่งมั่นใจว่าทันต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการ 10 ล้านคนแน่นอน
พร้อมกันนี้กรมฯ ยังได้มีการปรับเงื่อนไขการสมัครให้มีความยุ่งยากน้อยลง จากเดิมร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องมีใบรับรองการจดทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ ผ่อนปรนให้สามารถทางจังหวัดที่ตั้งร้านค้า ออกหนังสือรับรองการมีร้านค้าจริง หรือเซ็นรับรองในแบบฟอร์มการลงทะเบียนการสมัครมาตรการได้เลย เชื่อว่าจะทำให้มีร้านค้าเข้ามาร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
“เมื่อยังน้อยก็พยายามประชาสัมพันธ์และปรับเงื่อนไขให้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีใบรับรองการจดทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ให้ทางจังหวัดออกหนังสือรับรองมาเลย ถ้ายังยากไปอีกให้เอาใบสมัคร ไปให้เค้าเซ็นว่ามีตัวตนจริงก็ใช้ได้แล้วก็ไปเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทยเท่านั้น ที่เหลือเอกสารก็ไม่ยุ่งยากเลย” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีเพียงพอต่อแผนการใช้จ่ายของประชาชนที่จะเดินทางท่องเที่ยว 10 ล้านคน และกระจายไปทุกจังหวัดทั่วประเทศแน่ เพราะเมื่อนับรวมกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีเครื่อง EDC และแอปพลิเคชั่นถุงเงินปัจจุบันอยู่ที่ 80,000 ราย ทำให้มีร้านค้าที่ประชาชนสามารถไปใช้จ่ายได้ถึง 90,000 ร้าน เพียงพอแน่นอน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ร้านค้าที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” สามารถกรอกใบสมัครและยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ใน กทม.ยื่นใบสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง(ห้องกำปั่นเงิน) เวลา 08.30 – 16.30 น. ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 ไม่เว้นวันหยุดราชการ และกรณีที่ติดขัดปัญหา เช่น ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทยก็ได้จัดเตรียมรถโมบายของธนาคารกรุงไทยไว้ให้บริการ หรือตามจุดบริการนอกสถานที่ก็กำหนดไว้บริเวณสาขาธนาคารกรุงไทยสามารถเปิดบัญชีได้เลย หรือในกรณีที่ต้องมีการรับรองการประกอบกิจการร้านค้าจากหน่วยงานราชการ ทางกรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดช่วยอำนวยความสะดวก เช่น ไปเปิดรับสมัครที่ว่าการอำเภอ หรือประสานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่เพื่อรับรองในใบสมัครให้ด้วย
โดยได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยขอความอนุเคราะห์แจ้งหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ช่วยออกหนังสือรับรองการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนที่มีความประสงค์จะสมัครเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว หรือร่วมลงพื้นที่กับสำนักงานคลังจังหวัดในการให้บริการรับสมัคร เพื่อเซ็นรับรองให้แก่ประชาชนในแบบฟอร์มใบสมัคร ซึ่งกรมบัญชีกลางกำหนดรูปแบบไว้ให้แล้ว รวมถึงสนับสนุนกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ เพื่อให้หน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ประสานความร่วมมือและช่วยผลักดันให้การดำเนินการมาตรการดังกล่าว บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย