ไตรมาส 2 “อสมท” พลิกฟื้นกำไร 287 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – บมจ.อสมท
เผยผลประกอบการไตรมาสสองปี 62 พลิกฟื้นกำไร 287 ล้านบาท
เปลี่ยนแปลงดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 257
ธุรกิจโทรทัศน์-วิทยุ
ยังเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับองค์กร  ขณะที่ธุรกิจคลื่นวิทยุส่วนกลางเกือบทุกคลื่นมีรายได้เพิ่มขึ้น
กว่าไตรมาสก่อนหน้า พร้อมตั้งเป้าไตรมาส 3 อัด
Content ใหม่ๆ 
ชิงส่วนแบ่งผู้ชม-เม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจโทรทัศน์หลังคืนใบอนุญาตช่อง 14



นายเขมทัตต์ พลเดช  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท รายงานงบการเงิน ในไตรมาส 2 ปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30
มิถุนายน 2562 โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2562
บริษัทพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาสที่สองจำนวน 287 ล้านบาท และ 255 ล้านบาทสำหรับงวดหกเดือน
เปลี่ยนแปลงดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 257 และ 187
ตามลำดับ
เนื่องจากการบันทึกรับรู้รายการที่เกิดจากมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 11 เมษายน
2562 ที่ผ่านมา และประกาศ หลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชยอันเนื่องมาจากการคืนใบอนุญาตธุรกิจโทรทัศน์จากสำนักงาน
กสทช. เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา


ส่วนรายได้รวมของ บมจ. อสมท
ในไตรมาส 2 ปี 2562 มีรายได้รวมจำนวน 1,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 62
จากช่วงเดียวกันของปี 2561
เป็นผลจากการบันทึกกำไรที่เกิดจากมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมฯ
โดยมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจต่างๆ ดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ ร้อยละ 26 ธุรกิจวิทยุ
ร้อยละ 30 ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (
BNO) ร้อยละ 20
ธุรกิจร่วมดำเนินกิจการ (สัมปทาน) ร้อยละ 20 ธุรกิจดิจิทัล (โทรทัศน์ดาวเทียม
MCOT
Satellite Network และสื่อดิจิทัลต่างๆ ของ อสมท) ร้อยละ 1
รายได้อื่นๆ ร้อยละ 3 โดยรายได้รวมของธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุ
ยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56 ของรายได้รวมทั้งหมด 

ธุรกิจโทรทัศน์ 
รายได้โทรทัศน์ในช่วงไตรมาสสองปี 2562 มีรายได้ 150 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561
เนื่องจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ชะลอการใช้งบโฆษณาในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งรายได้จากช่อง 9
MCOT HD หมายเลข 30 เป็นรายได้หลักขององค์กร


ธุรกิจวิทยุ ในไตรมาสที่สอง ปี 2562 มีรายได้
171 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 4 
มีโครงสร้างรายได้ดังนี้ รายได้จากวิทยุในส่วนกลาง ร้อยละ 73 รายได้จากวิทยุในส่วนภูมิภาค
ร้อยละ 27 โดยคลื่นวิทยุในส่วนกลางเกือบทุกคลื่นที่มีผลงานด้านรายได้เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า
ได้แก่ ลูกทุ่งมหานคร
FM 95 MHz, คลื่นความคิด FM
96.5 MHz, Mellow FM 97.5 MHz, Active
Radio FM 99 MHz และคลื่นข่าว FM 100.5 MHz ตามลำดับ

ธุรกิจสื่อดิจิทัล บมจ. อสมท
ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนาและต่อยอดใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (
Maximize utilization) โดยการสร้างรายได้จากการนำเนื้อหารายการที่บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่
บนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น

นายเขมทัตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป ช่อง
9
MCOT HD หมายเลข 30
จะมีการเปลี่ยนแปลงรายการใหม่ๆ มากขึ้น อาทิ รายการ
แม็กซ์มวยไทย
คอนเทนท์มวยไทยระดับพรีเมียม 5 วันเต็ม ทุกวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี
เริ่มออกอากาศสดในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เวลา 18.00 น. นอกจากนี้ในช่วงเดือนกันยายน
อสมท จะยุติการออกอากาศในช่อง 14
MCOT Family และจะทยอยปรับผังรายการของช่อง
9
MCOT HD หมายเลข 30 ให้เข้มแข็งขึ้นโดยได้พิธีกรคู่ดังมาเสริมทัพรายการข่าวคุณภาพให้กับสถานีในช่วง
Non prime time และเพิ่มรายการบันเทิงเต็มอิ่มในช่วงเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์อีกด้วย
.
สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน