ร้องถูก 18 มงกุฏเชิดเงินค่าทำศัลยกรรม

กทม.9 ส.ค.-   เหยื่อ 19 มงกุฏ หลอกเหยื่อเป็นเอเจนซี่คลินิกศัลกรรมชักชวนไปทำราคาถูกกว่าไปติดต่อเองสูญเงินรวมหลายแสนบาท


 

กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  หรือ ปอท.ให้เอาผิดหญิงสาวรายหนึ่ง หลังอ้างตัวเป็นเอเจนซี่ชักชวนคนทางเฟซบุ๊คไปทำศัลยกรรมหน้าอก ทำคาง เสริมจมูก และทำตา ที่คลินิก 4 แห่งในกรุงเทพฯ   มีผู้หลงเชื่อ 37 ราย  แต่เมื่อมีการโอนเงินไปกลับไม่ได้ทำศัลยกรรม บางรายที่ได้ทำก็ไม่ครบตามที่ตกลงไว้  ทำสูญเงินตั้งแต่ 3,000- 40,000 บาท  รวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท


นางสาวไอลดา สวัสดีมงคล  หนึ่งในผู้เสียหายระบุว่า รู้จักกับเอเจนซี่รายนี้เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนไม่ได้สนิทสนม แต่ก็ไปมาหาสู่และเคยไปเที่ยวด้วยกัน  แล้วชักชวนให้ไปทำศัลยกรรมมีโปรโมชั่นราคาถูกกว่าไปทำกับทางคลินิกโดยตรง โดยให้โอนเงินมัดจำบางส่วน และให้ชวนเพื่อนมาทำ  และเอเจนซี่คนนี้จะทักเฟซบุ๊คไปชักชวนส่วนตัว มีการลงโฆษณาหน้าเฟซบุ๊คโปรโมชั่นต่างๆ ในราคาถูก เมื่อตนชักชวนเพื่อนมาทำ และมีการโอนเงินมัดจำ จะอ้างว่าอยากให้โอนเต็มจำนวนเพื่อจะได้ลัดคิวให้ พอโอนไปกลับบ่ายเบี่ยงและติดต่อไม่ได้ บางรายถูกนำไปทิ้งไว้ที่คลินิกเมื่อทำเสร็จกลับต้องจ่ายเงินเพิ่ม

ผู้เสียหายอีกคนได้ตกลงจ่ายเงินมัดจำเพื่อทำหน้าอก ครั้งแรกจำนวน 20,000 บาท เพื่อนัดคิวกับทางคลินิก แต่เอเจนซี่คนนี้อ้างว่าหากโอนเงินอีก 20,000 บาท  ครบเต็มจำนวนจะได้ทำทันที จึงโอนไปพอถึงวันนัด เอเจนซี่คนนี้ได้ขอเลื่อน ตนเห็นว่ามีการเลื่อนหลายครั้งจึงขอเงินคืน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้  

ด้านนางสาวรพัสวีร์ สวนเวียง เจ้าของคลินิกศัลยกรรมที่ถูกเอเจนซี่กล่าวอ้าง เดินทางมาชี้แจง ยอมรับว่านางสาวศศิธร  เคยเป็นเอเจนซี่ของคลินิก แต่มีปัญหาโอนเงินล่าช้าระหว่างพาลูกค้ามาทำศัลยกรรม ทำให้ลูกค้ารอนานและตำหนิคลินิกหลายครั้ง จึงยกเลิกการเป็นเอเจนซี่ของคลินิกตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา  แต่ยังไปหลอกลวงแอบอ้างซึ่งคลินิกได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางใหญ่ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด


 พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปอท.  กล่าวว่า  การกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1) ฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเนื่องจากมีลักษณะป่าวประกาศข้อความอันเป็นเท็จจริงสู่สาธารณชน  พร้อมฝากเตือนประชาชนที่จะรับเพื่อนใหม่ทางเฟซบุ๊คให้พิจารณาเลือกรับเฉพาะบุคคลที่รู้จัก ป้องกันมิจฉาชีพเข้ามาล้วงข้อมูลส่วนตัวไปใช้ประโยชน์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว